รอยเตอร์ – ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุเรือเฟอร์รีล่มในภาคกลางของฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้นเป็น 41 รายแล้วในวันนี้ (3 ก.ค.) หลังจากที่ทีมกู้ภัยกู้ศพขึ้นมาอีก 3 ศพ แต่สภาพอากาศที่เลวร้ายทำให้การค้นหาผู้สูญหายอีก 12 รายต้องหยุดชะงักลงชั่วคราว ยามชายฝั่งและตำรวจ เผย
เรือไม้ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ MBCA Kim-Nirvana ลำนี้ซึ่งบรรทุกผู้โดยสารและลูกเรือรวม 187 คน เอียงข้างและพลิกคว่ำไม่กี่นาทีหลังจากที่ออกมาจากท่าเรือของเมืองออร์มอคเมื่อวานนี้ (2) จนถึงตอนนี้มีผู้รอดชีวิต 134 ราย
คลื่นสูงและกระแสน้ำที่รุนแรงในวันนี้ (3) ทำให้ทีมนักประดาน้ำต้องยุติความพยายามค้นหาบริเวณพื้นทะเลนอกเมืองออร์มอคชั่วคราว แต่เรือยางยังคงคอยแล่นเสาะหาผู้รอดชีวิตเหนือผิวน้ำอยู่ แอชเชอร์ โดลินา ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ กล่าว
ส่วนท้องเรือที่หงายขึ้นมายังคงมองเห็นได้เหนือพื้นผิวน้ำในวันนี้ (3) ผู้เห็นเหตุการณ์บอกับรอยเตอร์
ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยดำเนินอยู่ตลอดทั้งคืน โดยหน่วยยามชายฝั่งได้รับการสนับสนุนจากเรือของกองทัพเรือฟิลิปปินส์ 1 ลำและอากาศยานของกองทัพอากาศ 2 ลำ
การสืบสวนหาสาเหตุของการล่มครั้งนี้จะเริ่มต้นขึ้นในวันนี้ (3) อาร์แมนด์ บาลิโล โฆษกหน่วยยามชายฝั่ง บอกกับสถานีวิทยุฟิลิปปินส์
กลุ่มผู้รอดชีวิตเล่าว่า เรือเฟอร์รีลำนี้ดูเหมือนว่าจะเลี้ยวไปทางขวาอย่างกะทันหันและถูกคลื่นลูกใหญ่ซัดปะทะก่อนที่มันจะพลิกคว่ำ หลังจากออกมาจากท่าเรือในจังหวัดเลย์เต ทางใต้ของกรุงมานิลา “เราได้รับเสื้อชูชีพกันแล้วแต่เราใส่มันไม่ทัน” เรอัน การ์เซียโน ผู้รอดชีวิตรายหนึ่งกล่าว
ผู้โดยสารที่แตกตื่นพากันไปออที่ด้านขวาของเรือเฟอร์รีลำดังกล่าว ส่งผลให้เรือค่อยๆ เอียงลงก่อนที่จะพลิกคว่ำ บาลิโล กล่าว และบอกว่า “ในตอนนั้นเรือลำนี้บรรทุกปูนซีเมนต์และข้าว แต่มันดูเหมือนจะไม่ได้บรรทุกเกินพิกัด”
ในวันนี้ (1) มีการปรับลดตัวเลขผู้ที่อยู่บนเรือลง หลังจากที่พบว่ามีลูกเรือ 2 คนไม่ได้ขึ้นเรือลำดังกล่าว
ในแต่ละปีจะมีผู้คนหลายสิบหรือบางครั้งก็หลายร้ายเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเรือเฟอร์รีในแดนตากาล็อก ประเทศหมู่เกาะซึ่งมีประวัติด้านความปลอดภัยทางเรือที่ฉาวโฉ่ การแออัดยัดเยียดบนเรือเป็นเรื่องปกติและเรือจำนวนมากอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่