เอเอฟพี - นักรบชาวเคิร์ดได้ขับไล่กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ออกจากเมืองชายแดนโคบานีแล้วในวันนี้ (27 มิ.ย.) สองวันหลังจากที่นักรบญิฮาดกลุ่มนี้ยึดพื้นที่ใกล้เคียงไปหลายแห่ง กลุ่มสังเกตการณ์และกลุ่มนักเคลื่อนไหว ระบุ
การโจมตีเมืองนี้อย่างนองเลือดของกลุ่มไอเอสทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นพลเรือนอย่างน้อย 174 รายและเป็นพวกนักรบ 70 ราย กลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในซีเรีย (Syrian Observatory for Human Rights) ระบุ
“กองกำลังพิทักษ์ประชาชนชาวเคิร์ด (วายพีจี) ยึดคืนที่มั่นของพวกไอเอสในเมืองโคบานีกลับมาได้แล้ว” กลุ่มสังเกตการณ์ฯ ซึ่งมีฐานอยู่ในอังกฤษระบุ
“กลุ่มวายพีจีสามารถยึดคืนโรงเรียนมัธยมปลายชายล้วนของเมืองนี้ที่นักรบไอเอสกลุ่มสุดท้ายเข้าไปหลบซ่อนได้ หลังจากที่ทำการจุดระเบิด”
นักรบญิฮาดกลุ่มนี้เข้าสู่เมืองคาบานีเมื่อช่วงเช้าวันพฤหัสบดี (25) และยึดอาคารหลายแห่งในทางตอนใต้และทางตะวัตตกเฉียงใต้ของเมืองนี้
ไม่กี่ชั่วโมงต่อมากำลังเสริมของกองกำลังวายพีจีได้ปิดล้อมที่มั่นต่างๆ ของพวกไอเอสซึ่งมีพลเรือนถูกนักรบญิฮาดกลุ่มนี้ควบคุมตัวไว้อยู่ และได้เริ่มการยึดคืนอาคารแห่งต่างๆ อย่างช้าๆ
รูดี โมฮัมหมัด อามิน ผู้สื่อข่าวท้องถิ่นบอกกับเอเอฟพีว่า “เมืองโคบานีทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มวายพีจีอีกครั้งแล้ว”
“กองกำลังวายพีจีจุดระเบิดนอกโรงเรียนดังกล่าวแล้วจึงบุกเข้าไป” อามินกล่าว โดยพูดผ่านอินเทอร์เน็ตจากที่มั่นแห่งหนึ่งใกล้เมืองโคบานี
“ปฏิบัติการทางทหารนี้มีขึ้นหลังจากที่ทำให้แน่ใจแล้วว่าไม่มีพลเรือเหลืออยู่ในโรงเรียนดังกล่าว” เขากล่าวเสริม
อามินกล่าวว่า เขาเชื่อว่านักรบไอเอสในโรงเรียนดังกล่าวถูกสังหารทั้งหมด
กลุ่มสังเกตการณ์ซึ่งเฝ้าติดตามสงครามนี้ผ่านเครือข่ายภาคพื้นระบุว่า กลุ่มวายพีจีและสมาชิกกองกำลังความมั่นคงชาวเคิร์ดกำลังลาดตระเวนค้นหานักรบไอเอสที่หลงเหลืออยู่ในเมืองนี้
การโจมตีเมืองโคบานีของกลุ่มไอเอสทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 174 ราย ในจำนวนนี้ 148 รายตายในเมือง และมีนักรบชาวเคิร์ดถูกสังหารอย่างน้อย 16 คน ขณะที่ฝ่ายไอเอสสูญเสีย 54 คน
รามี อับเดล เราะห์มาน ผู้อำนวยการของกลุ่มสังเกตการณ์ฯ ระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตยังคงเพิ่มขึ้นอยู่เรื่อยๆ เนื่องจากกองกำลังชาวเคิร์ดพบศพเพิ่มเติม