xs
xsm
sm
md
lg

'เขมร'เนรเทศผู้อพยพผิดกฎหมาย 700 คน และจับ 'สปายเวียดนาม' ได้ที่ชายแดน

เผยแพร่:   โดย: วิทยุเอเชียเสรี

<b><i>สมาชิกรัฐสภาและนักเคลื่อนไหวของพรรคฝ่ายค้านกัมพูชา เผชิญหน้ากับทหารและชาวบ้านเวียดนาม ที่บริเวณพรมแดนในจังหวัดรัตนคีรี เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2015 (ภาพจากเว็บไซต์วิทยุเอเชียเสรี) </b></i>
(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)

Cambodia deports 700 Illegal immigrants, nabs Vietnamese spies in border row
By Radio Free Asia
12/06/2015

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา กระทรวงมหาดไทยของกัมพูชาแถลงว่า ช่วงระยะ 6 เดือนมานี้ ได้เนรเทศผู้อพยพผิดกฎหมายออกนอกประเทศเป็นจำนวน 700 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวเวียดนาม ทว่าในเวลาใกล้ๆ กันนั้น ก็มีการจับกุมตัวทหารรักษาชายแดนชาวเวียดนาม ซึ่งปลอมตัวเป็นตำรวจเขมร ขณะแอบเข้ามาสืบความลับในที่ชุมนุมของประชาชนชาวกัมพูชาแห่งหนึ่งในจังหวัดรัตนคีรี

กัมพูชาได้เนรเทศผู้อพยพผิดกฎหมายออกนอกประเทศเป็นจำนวน 700 คนในช่วงเวลา 6 เดือนมานี้ กระทรวงมหาดไทยแถลงเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่ในเวลาใกล้เคียงกันนั้น ก็มีการจับกุมตัวทหารรักษาชายแดนชาวเวียดนามซึ่งปลอมตัวเป็นตำรวจท้องถิ่น เพื่อเข้ามาแอบสืบความลับในที่ชุมนุมของประชาชนชาวเขมรแห่งหนึ่ง เรื่องนี้ตอกย้ำให้เห็นความลำบากของทางการกรุงพนมเปญ ในการควบคุมพื้นที่พรมแดนของตน

อุก ไฮ เซลา (Ouk Hai Seila) ผู้อำนวยการกองการสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ของกระทรวงมหาดไทยกัมพูชา บอกกับวิทยุเอเชียเสรีภาคภาษาเขมร (RFA’s Khmer Service) ว่า นับตั้งแต่ปลายปี 2014 เป็นต้นมา ทางเจ้าหน้าที่รับผิดชอบของกัมพูชาได้ทำการเนรเทศผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายเป็นจำนวนรวม 700 คน โดยเป็นชาวเวียดนาม 500 คน และชาวจีน 200 คน ผู้อพยพเหล่านี้ส่วนใหญ่เข้ามายังกัมพูชาเพื่อหางานทำในภาคการก่อสร้าง

“ชาวเวียดนามเข้าเมืองผิดกฎหมาย เดินทางมากัมพูชา เนื่องจากมีคนชาติพันธุ์เวียดนามพำนักอาศัยในกัมพูชากันอยู่แล้ว และมีผู้รับเหมาบางคนในธุรกิจก่อสร้างและกิจการช่างไม้ ไปว่าจ้างคนจากทางเวียดนาม แต่ว่าคนเหล่านี้ต่างก็เป็นพวกที่เข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย” เขากล่าว

อุก ไฮ เซลา พูดเรื่องนี้กับวิทยุเอเชียเสรี ภายหลังตำรวจกัมพูชาได้ออกจู่โจมกวาดจับระลอกใหญ่เมื่อวันพุธที่ 10 มิถุนายน ซึ่งได้ตัวผู้อพยพผิดกฎหมายชาวเวียดนามกว่า 50 ราย คนเหล่านี้ทำงานอยู่ตามร้านคาราโอเกะ ตลอดจนทำงานเป็นช่างไม้

ทางด้าน เขม เล (Kem Lei) นักวิเคราะห์ด้านสังคมชาวกัมพูชา ให้ความเห็นกับวิทยุเอเชียเสรีว่า การจู่โจมกวาดจับคราวนี้ดูจะมีลักษณะแปลกๆ ชวนสงสัยบางประการ เป็นต้นว่ากระทำกันอย่างปิดลับ และลงมือปฏิบัติการโดยไม่ได้มุ่งแก้ไขปัญหาเรื่องเจ้าหน้าที่ปล่อยปละไม่รักษากฎหมาย ตลอดจนเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้มีคนต่างชาติสามารถเดินทางเข้ามายังกัมพูชาได้อย่างสะดวกง่ายดายตั้งแต่แรก

“กฎหมายตรวจคนเข้าเมืองไม่ได้เคยถูกนำมาบังคับใช้อย่างเต็มที่กันเลย เรื่องนี้ควรจะต้องให้ความสนใจกันให้มาก” เขากล่าว

ชายแดนที่เต็มไปด้วยรูรั่วช่องโหว่

ความยากลำบากของกัมพูชาในการตรวจตราดูแลพรมแดนของตน ยิ่งเห็นได้อย่างชัดเจนจากเหตุการณ์อีกเหตุการณ์หนึ่งซึ่งเกิดขึ้นช่วงเวลาใกล้ๆ กัน ในพื้นที่บริเวณชายแดนของจังหวัดรัตนคีรี ซึ่ง กัมพูชา กับ เวียดนาม ประเทศเพื่อนบ้านที่มีขนาดใหญ่โตกว่า เกิดการพิพาทช่วงชิงกันมานานแล้ว

โดยในวันพุธที่ 10 มิถุนายน กลุ่มนักเคลื่อนไหวจากพรรคกู้ชาติกัมพูชา (Cambodia National Rescue Party หรือ CNRP) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ได้ควบคุมตัวเจ้าหน้าที่ทหารชายแดนเวียดนาม 2 คน ซึ่งปลอมตัวแต่งกายสวมเครื่องแบบตำรวจกัมพูชา และแอบเข้าไปฟังการชุมนุมของพรรค CNRP ในจังหวัดรัตนคีรี การชุมนุมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อปลุกจิตสำนึกให้ประชาชนเขมรสนใจสิ่งที่ทางพรรคฝ่ายค้านระบุว่า เป็นการสร้างฝายทดน้ำอย่างผิดกฎหมายของประชาชนเวียดนาม ในบริเวณชายแดนที่พิพาทกัน ส่วนซึ่งอยู่ทางฝั่งกัมพูชา

โรมัส สวัต (Romas Svat) ชาวบ้านในท้องถิ่นผู้หนึ่งบอกกับวิทยุเอเชียเสรีว่า พวกชาวบ้านได้ช่วยกันควบคุมตัวสปายสายลับคนหนึ่งซึ่งแอบเล็ดลอดเข้าปะปนกับผู้ชุมนุมเพื่อรับฟังการปราศรัย

“พวกเราคุมตัวชายเวียดนามเอาไว้ได้คนหนึ่ง แต่เราไม่ได้ใช้ความรุนแรงอะไรกับเขานะ” เขากล่าว

ทางด้าน เมา โมนิวันน์ (Mao Monivann) สมาชิกรัฐสภาสังกัดพรรคกู้ชาติกัมพูชา ซึ่งเป็นผู้นำของการชุมนุมอีกคราวหนึ่งที่จัดขึ้นในบริเวณเดียวกันตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ (8 มิ.ย.) ได้เข้าห้ามปรามฝูงชนชาวกัมพูชาที่คุกคามจะทำร้ายทหารเวียดนามทั้ง 2 ซึ่งทางฝูงชนกล่าวหาว่า เป็นสปายแอบมาสืบความลับ

“พวกเขา (ทหารเวียดนาม 2 คน) ข้ามเข้ามาในกัมพูชาอย่างผิดกฎหมาย พวกเขาละเมิดกฎหมายของกัมพูชา เราจึงควบคุมตัวพวกเขาไปส่งตำรวจ” เขาบอกกับวิทยุเอเชียเสรีภาคภาษาเขมร แต่ปรากฏว่ามีคนหนึ่งสามารถหลบหนีไปได้ในระหว่างที่เกิดการชุลมุนกัน

ในเวลาต่อมา ตำรวจกัมพูชายังปล่อยตัวเจ้าหน้าที่เวียดนามอีกคนหนึ่งเป็นอิสระด้วย เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังขรมจากพวกนักเคลื่อนไหวชาวกัมพูชา ซึ่งพากันบอกว่าควรจะต้องนำเอาคนที่ถูกจับมาสอบสวนดำเนินคดี

“พวกตำรวจทำผิดกฎหมายนะ ที่ปล่อยตัวทหารเวียดนามซึ่งแอบเข้ามาในกัมพูชาอย่างผิดกฎหมาย” ชาย ธี (Chhay Thy) ผู้ประสานงานของกลุ่มเอ็นจีโอผู้หนึ่ง บอกกับวิทยุเอเชียเสรี

สำหรับการชุมนุมเมื่อวันจันทร์ที่ 8 มิถุนายนนั้น มีนักเคลื่อนไหวในจังหวัดรัตนคีรีราว 200 คน นำโดยพวกสมาชิกรัฐสภาฝ่ายค้าน เข้าเผชิญหน้ากับทหารและชาวบ้านหลายสิบคนจากเวียดนาม สืบเนื่องจากการที่ฝ่ายเวียดนามเข้ามาขุดสระทำฝายทดน้ำ ในบริเวณพื้นที่ซึ่งยังไม่มีการตกลงปักปันแบ่งเขต ของแนวชายแดนระหว่างประเทศทั้งสอง

ปรากฏว่านักเคลื่อนไหวและสมาชิกรัฐสภาฝ่ายค้านชาวกัมพูชาเหล่านี้ ไม่ใช่แค่เจอกับพวกชาวบ้านเวียดนามที่มาทำฝายเท่านั้น แต่ยังประจันหน้ากับทหารเวียดนามราว 50 คนซึ่งมีอาวุธปืนครบครัน อีกทั้งนำสุนัขลาดตระเวนมาด้วยหลายตัว ณ ริมขอบของบริเวณที่เรียกกันว่า “พื้นที่สีขาว” ซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดนที่ยังไม่มีเครื่องหมายแบ่งแดนใดๆ ในอำเภอโอยาดาว (Oyadaw district) เมา โมนิวันน์ เล่าเอาไว้เช่นนี้เมื่อวันจันทร์ (8 มิ.ย.)

หลังจากเผชิญหน้ากันอยู่ราว 3 ชั่วโมง กลุ่มคนจากฝ่ายกัมพูชาก็ดันกันไปข้างหน้าจนเข้าไปในพื้นที่สีขาว พร้อมกับประกาศว่าเวียดนามละเมิดข้อตกลงที่ทำกันระหว่างสองประเทศ ซึ่งห้ามไม่ให้ดำเนินการพัฒนาใดๆ ในพื้นที่บริเวณนี้จนกว่าจะมีการตกลงปักปันแบ่งเขตพรมแดนกันอย่างเป็นทางการแล้ว

ทั้งนี้พื้นที่ชายแดนระหว่างกัมพูชากับเวียดนามซึ่งยาวเหยียดถึง 1,228 กิโลเมตร ไม่เพียงเกิดความขัดแย้งขึ้นมาตรงบริเวณนี้เท่านั้น หากแต่เกิดขึ้นในบริเวณอื่นๆ อีกหลายต่อหลายแห่ง ทั้งที่อยู่ในจังหวัดสวายเรียง, กัมโพช, ตบุง คมุม, และ กัมปงจาม

ข่าวนี้รายงานโดย วิทยุเอเชียเสรีภาคภาษาเขมร(RFA’s Khmer Service) แปลโดย เสมียน ยุน (Samean Yun) และเขียนเป็นภาษาอังกฤษโดย พอล เอคเคิร์ต (Paul Eckert)

วิทยุเอเชียเสรี (Radio Free Asia ใช้อักษรย่อว่า RFA) ก่อตั้งขึ้นโดยรัฐบัญญัติของรัฐสภาสหรัฐฯ และได้รับการสนับสนุนส่วนหนึ่งจากเงินให้เปล่าของรัฐบาลสหรัฐฯ ปัจจุบัน RFA เป็นผู้ดำเนินการสถานีวิทยุและบริการข่าวสารทางอินเทอร์เน็ต
กำลังโหลดความคิดเห็น