เอพี – ในวันนี้ (10) มีมือระเบิดฆ่าตัวตายรายหนึ่งจุดชนวนระเบิดตัวเองใกล้กับวิหารคาร์นัคของอาณาจักรอียิปต์โบราณในเมืองลักซอร์ เมืองทางใต้ซึ่งมีนักท่องเที่ยวหลายล้านคนมาเยี่ยมเยือนในทุกๆ ปี เจ้าหน้าความมั่นคงและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเผย
ไม่นานหลังจากการระเบิดดังกล่าว ตำรวจได้ยิงปะทะและสังหารผู้ต้องสงสัยเป็นกลุ่มติดอาวุธอิสลามมิก 2 ราย ซึ่งมาถึงวิหารริมแม่น้ำไนล์แห่งนี้พร้อมกันกับมือระเบิดฆ่าตัวตายรายดังกล่าว เจ้าหน้าที่กลุ่มนี้ระบุ
กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 คน รวมถึงตำรวจ 2 คนในการยิงปะทะดังกล่าว
ในช่วงที่เกิดการโจมตีเมื่อตอนเช้า มีนักเที่ยวและชาวอียิปต์อยู่ภายในวิหารแห่งนี้เพียงไม่กี่คน เจ้าหน้าที่กลุ่มนี้กล่าวเสริม โดยไม่ขอเผยนาม เนื่องจากพวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้พูดกับสื่อ
การโจมตีในวันนี้ (10) ถือเป็นครั้งแรกที่สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลกในเมืองลักซอร์ตกเป็นเป้าหมายการโจมตี นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 1997 ที่กลุ่มติดอาวุธอิสลามิกกราดยิงใส่นักท่องเที่ยวที่วิหารฮัตเซปซุตอายุ 3,400 ปีของเมืองนี้บริเวณฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไนล์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 58 ราย
การท่องเที่ยวเป็นสิ่งที่หล่อเลี้ยงเมืองลักซอร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของวิหารโบราณและสุสานฟาโรห์ที่มีชื่อเสียที่สุดของแดนไอยคุปต์บางส่วน รวมถึงสุสานของกษัตริย์ตุตันคาเมน เมืองนี้ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดน้อยลงในช่วงความไม่สงบนานหลายปีนับตั้งแต่การลุกฮือเมื่อปี 2011 ของอียิปต์
ในตอนนี้ยังไม่กลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อการโจมตีในวันนี้ (10) แต่มันเห็นได้ชัดว่าเป็นฝีมือของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ซึ่งสู้รบอยู่กับกองกำลังความมั่นคงในคาบสมุทรซีนายอันเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์มาเป็นเวลาหลายปี พวกกลุ่มหัวรุนแรงในซีนายพุ่งเป้าที่สถานที่ท่องเที่ยวเพื่อพยายามที่จะสกัดแหล่งรายได้สำคัญของรัฐบาล
เมื่อปีที่แล้ว กลุ่มอันซาร์ เบอิต อัล-มักดิส กลุ่มกบฏที่มีฐานอยู่ในซีนายได้ประกาศสวามิภักดิ์ต่อกลุ่มไอเอส ซึ่งทำลายสถานที่ทางโบราณคดีอันมีชื่อเสี่ยงในอิรักและซีเรียหลายแห่ง เนื่องจากพวกเขามองว่ามันเป็นรูปเคารพ ซึ่งขัดต่อหลักความเชื่อแบบสุดโต่งของพวกเขา
การก่อความรุนแรงในซีนายเพิ่มมากขึ้นและแพร่กระจายสู่ส่วนอื่นๆ ของอียิปต์ ภายหลังจากที่กองทัพโค่นล้ม โมฮัมเหม็ด มอร์ซี ประธานาธิบดีสายอิสลามิสต์ในปี 2003 กลุ่มติดอาวุธเหล่านี้ระบุว่า การโจมตีดังกล่าวเป็นการแก้แค้นตอบโต้การปราบปรามพวกอิสลามิสต์ขนานใหญ่ที่กำลังดำเนินอยู่ในอียิปต์
การโจมตีวิหารคาร์นัคซึ่งตั้งอยู่บริเวณฝั่งตะวันออกของแม่น้ำไนล์ครั้งนี้มีขึ้นในขณะที่การท่องเที่ยวกำลังเริ่มแสดงสัญญาณของการฟื้นตัว หลังจากตกต่ำนาน 4 ปีภายหลังการลุกฮือโค่นล้มประธานาธิบดี ฮอสนี มูบารัค ที่ผูกขาดอำนาจมาเป็นเวลานาน