เอเจนซีส์ - รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศเดินหน้าแผนเพิ่มสัดส่วนการใช้ประโยชน์จากพลังงานนิวเคลียร์เป็นมากกว่า 20% หรือ 1 ใน 5 ของสัดส่วนการใช้พลังงานทั้งประเทศภายในปี ค.ศ. 2030 เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานและลดการพึ่งพา “น้ำมัน” จากต่างประเทศ
ท่าทีล่าสุดของรัฐบาลญี่ปุ่นมีขึ้นหลังมีการเผยแพร่ผลการศึกษานานเป็นแรมปีของทางคณะกรรมการพิเศษของกระทรวงอุตสาหกรรมญี่ปุ่นซึ่งได้ข้อสรุปว่า การใช้พลังงานนิวเคลียร์ถือเป็นเรื่องจำเป็น และถือเป็นทางออกเพื่อความอยู่รอดของเศรษฐกิจแดนปลาดิบ
ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2013 สัดส่วนการใช้ประโยชน์จากพลังงานนิวเคลียร์ของญี่ปุ่นอยู่ที่ระดับ 1% เท่านั้น แต่คาดว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะขยายสัดส่วนของการใช้พลังงานนิวเคลียร์เป็น 22-24% ภายในปี ค.ศ. 2030 หากแผนการนี้ผ่านความเห็นชอบจากกระบวนการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในช่วงกลางปีนี้
อย่างไรก็ดี เป็นที่คาดกันว่าสาธารณชนญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยยังคงไม่เชื่อมั่นต่อความปลอดภัย ของการใช้ประโยชน์จากพลังงานนิวเคลียร์ โดยเฉพาะหลังเกิด “วิกฤตที่ยังแก้ไม่รู้จบ” กับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมา-ไดอิจิ ที่เสียหายหนักจากเหตุแผ่นดินไหว-สึนามิเมื่อเดือนมีนาคม 2011