เอเอฟพี - ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุรถบรรทุกน้ำมันเสียหลักพุ่งชนสถานีรถโดยสารที่พลุกพล่าน ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไนจีเรียเพิ่มเป็น 69 คน ขณะที่โฆษกตำรวจเผยในวันจันทร์(1มิ.ย.) ไม่พบร่องรอยที่น่าสงสัยใดๆ
"รถบรรทุกน้ำมันเกิดเสียหลัก พุ่งเข้าชนสถานีรถบัสโดยสารใกล้กับวงเวียนแห่งหนึ่งในเมืองโอนิตชา ซึ่งเป็นเมืองเอกในด้านการค้าขายของรัฐอานัมบรา" อูเชนบา เอเซห์ โฆษกตำรวจกล่าวถึงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์(31พ.ค.)
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกาชาด ในกรุงอาบูจา เมืองหลวงของไนจีเรีย บอกว่าเจ้าหน้าที่ขององค์กรตอบสนองต่ออุบัติเหตุเลวร้ายครั้งนี้ในทันที ในความพยายามช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ
ทางการเผยว่าเจ้าหน้าที่ ณ จุดเกิดเหตุยืนยันว่ายอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 69 คนแล้ว จากเดิมที่โฆษกตำรวจบอกว่าพบเหยื่อที่ถูกย่างสด 37 ราย อย่างไรก็ตามคณะแพทย์กำลังให้การรักษาผู้มีบาดแผลไฟไหม้รุนแรงหลายคน ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจสูงกว่านี้
ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าอะไรเป็นต้นตอที่ทำให้รถบรรทุกสูญเสียการควบคุม แต่โฆษกตำรวจชี้ว่าจากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบร่องรอยการทำผิดกฎหมายใดๆ พร้อมเผยว่ามีรถบัสนับสิบคันและรถจักรยานยนต์อีกหลายคันถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหาย
อุบัติเหตุลักษณะนี้ ถือเป็นเรื่องที่พบเห็นได้บ่อยครั้งสำหรับไนจีเรีย ถนนหลักหลายสายของที่นั่นล้วนแต่เป็นหลุมเป็นบ่อ แถมรถบรรทุกจำนวนมากก็มักจะมีอายุใช้งานเก่าเก็บและขาดการบำรุงรักษา
ขณะเดียวกันบรรดาโชเฟอร์ของรถใหญ่เหล่านี้มักจะต้องเจอกับแรงกดดันจากหัวหน้า ให้ใช้เวลาในการพักเพียงแค่เล็กน้อยระหว่างการเดินทางระยะไกล ซึ่งนั่นเท่ากับว่าบรรดาคนขับรถบรรทุกเหล่านี้ต้องอดหลับอดนอนในบางครั้ง
อุบัติเหตุเกี่ยวกับรถบรรทุกน้ำมันของไนจีเรียในอดีตที่ผ่านมา ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงอันตรายที่ร้ายแรง ถึงกระนั้นก็มักจะมีชาวบ้านที่แห่กันไปยังจุดเกิดอุบัติเหตุเพื่อตักตวงน้ำมันที่รั่วไหลกันเป็นประจำ
ย้อนกลับไปช่วงเดือนกรกฎาคม 2012 ที่รัฐริเวอร์ ทางใต้ของไนจีเรีย ตอนนั้นเกิดมีรถบรรทุกน้ำมันพลิกคว่ำ ทำให้น้ำมันรั่วไหลออกมาเต็มข้างถนน
ฝูงชนชาวไนจีเรียก็พากันคว้าแกลลอน แห่กันไปตักตวงน้ำมันอย่างเต็มที่ แต่แล้วน้ำมันดันติดไฟขึ้นมา ทำให้เกิดเพลิงผลาญวอดวาย คร่าชีวิตชาวบ้านตายไปมากกว่า 100 ศพในเหตุการณ์ครั้งนั้น