รอยเตอร์ – อดีตผู้นำเผด็จการเยเมน อาลี อับดุลเลาะห์ ซาเลห์ ให้สัมภาษณ์สื่ออาหรับ โดยชี้ว่าประธานาธิบดี อับดุร-รับบูห์ มันซูร์ ฮาดี “หมดความชอบธรรม” ในการบริหารประเทศ นับตั้งแต่กรุงซานาถูกกบฏฮูตียึดไว้ได้ ซึ่งทำให้ ฮาดี ต้องเผ่นหนีออกไปพึ่งใบบุญซาอุดีอาระเบีย
ซาเลห์ ให้สัมภาษณ์ต่อสถานีโทรทัศน์ อัล-มายาดีน โดยระบุว่า “อำนาจอันชอบธรรมของเขา (ฮาดี) หมดไปตั้งแต่เขาหนีออกจากซานา เอเดน และเวลานี้ก็กำลังจะหนีออกจากกรุงริยาดอีก”
ประธานาธิบดี ฮาดี หลบหนีออกจากเมืองหลวงเยเมนเมื่อเดือนมีนาคม หลังพวกกบฏนิกายชีอะห์นำกำลังบุกเข้ายึดเมืองไว้ได้ตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว และกำลังแผ่ขยายอิทธิพลไปทั่วภาคกลางและใต้ของเยเมน จนทำให้ซาอุดีอาระเบียตัดสินใจระดมพันธมิตรอาหรับส่งเครื่องบินไปทิ้งระเบิดเพื่อคืนอำนาจปกครองให้แก่ฮาดี
อย่างไรก็ตาม ทหารเยเมนที่ยังคงภักดีกับ ซาเลห์ ได้ร่วมต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับพวกฮูตี
ซาเลห์ ประณามฝักฝ่ายต่างๆ ที่ไปร่วมวงเจรจาที่กรุงริยาดว่าเป็นพวกทรยศชาติ เพราะเท่ากับเปิดประตูให้ซาอุฯ ส่งเครื่องบินเข้ามาโจมตีทางอากาศบนแผ่นดินเยเมน
“พวกที่ไปร่วมโต๊ะเจรจาที่ริยาดเท่ากับสาปแช่งตนเอง... ไม่ให้กลับมามีที่ยืนในเยเมนอีก เพราะพวกเขาเห็นดีเห็นงามกับความก้าวร้าวของซาอุฯ”
กรุงริยาดได้จัดการประชุมหารือเมื่อต้นเดือนนี้ โดยได้เชิญฝักฝ่ายต่างๆ ในเยเมนเข้าร่วมพูดคุย ทว่ากบฏฮูตีไม่ยอมรับข้อเสนอ
ในส่วนของการเจรจาที่โอมานซึ่งกำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ และมีตัวแทนจากกบฏฮูตีเข้าร่วมด้วย ซาเลห์ บอกว่า เขาไม่เคยได้รับเชิญ
“เราเป็นกลุ่มสุดท้ายที่ได้ทราบเรื่องการเจรจาที่โอมาน... อันซารุลเลาะห์ (กบฏฮูตี) ไม่เคยบอกเราเรื่องนี้”
โอมานซึ่งมีพรมแดนติดกับเยเมนเป็นประเทศเดียวในกลุ่มรัฐอ่าวอาหรับทั้ง 6 ชาติที่ไม่ได้เข้าร่วมปฏิบัติการโจมตีทางอากาศซึ่งมีซาอุฯ เป็นผู้นำ
เมื่อเช้าวานนี้ (29 พ.ค.) โฆษกกบฏฮูตีได้โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก ระบุว่าการเจรจาที่โอมานยังคงดำเนินต่อไป โดยรัฐบาลมัสกัตพยายามอย่างยิ่งที่จะเป็นคนกลางช่วยคลี่คลายวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในเยเมน
อย่างไรก็ดี ซาเลห์ กลับกล่าวหาว่า สหรัฐฯ และอิหร่านอยู่เบื้องหลังบทบาทกาวใจของโอมานในครั้งนี้
“ผมมั่นใจเกิน 100% ว่าสหรัฐฯ และอิหร่านต้องการให้โอมานรับหน้าที่คนกลางคอยไกล่เกลี่ยระหว่างพวกฮูตีกับซาอุดีอาระเบีย”