เอเอฟพี – เครื่องบินแอร์บัส A330-300 ของสิงคโปร์แอร์ไลน์ส เผชิญปัญหาเครื่องยนต์ทั้งคู่ดับกลางอากาศระหว่างเดินทางสู่นครเซี่ยงไฮ้ ส่งผลให้เครื่องลดระดับลงมาถึง 13,000 ฟุต ก่อนที่นักบินจะสามารถกู้สถานการณ์ได้ทันและพาผู้โดยสารถึงที่หมายอย่างปลอดภัย ขณะที่สิงคโปร์แอร์ไลน์สได้ตั้งทีมสอบสวนเพื่อหาต้นตอของเหตุการณ์ระทึกขวัญครั้งนี้แล้ว
สิงคโปร์แอร์ไลน์ส แถลงในวันนี้(27 พ.ค.)ว่า เครื่องบินแอร์บัส A330-300 ซึ่งพาผู้โดยสาร 182 คนและลูกเรือ 12 คนเดินทางไปยังเซี่ยงไฮ้เมื่อวันที่ 23 พ.ค. เผชิญสภาพอากาศเลวร้ายขณะบินอยู่ที่ความสูง 39,000 ฟุต หลังออกจากสนามบินนานาชาติชางงีไปแล้วประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง
“เครื่องยนต์ทั้งคู่เกิดดับลงชั่วคราว นักบินผู้ควบคุมจึงปฏิบัติตามขั้นตอนฉุกเฉิน จนสามารถกู้เครื่องยนต์ให้กลับมาทำงานตามปกติได้”
“เที่ยวบินดังกล่าวได้เดินทางต่อไปจนถึงนครเซี่ยงไฮ้ และลงจอดอย่างปลอดภัยเมื่อเวลา 22.56 น. ตามเวลาท้องถิ่น”
สายการบินระบุว่า เครื่องยนต์โรลส์รอยซ์ทั้ง 2 ตัวของแอร์บัสลำนี้ “ถูกตรวจสอบทันทีที่ไปถึงเซี่ยงไฮ้ แต่ไม่พบความผิดปกติใดๆ... ขณะนี้เราได้ขอคำปรึกษาจากผู้ผลิตเครื่องยนต์โรลส์รอยซ์ และแอร์บัสแล้ว”
เว็บไซต์ติดตามเที่ยวบิน Flightradar24 ได้ทวีตข่าวเมื่อค่ำวานนี้ (26) ว่า เที่ยวบิน SQ836 “ประสบปัญหาเครื่องยนต์ดับทั้งคู่ ทำให้เครื่องบินทิ้งดิ่งลงมา 13,000 ฟุต ก่อนที่เครื่องยนต์จะกลับมาเดินเป็นปกติ” และต่อมาได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า เครื่องยนต์ดับระหว่าง “บินฝ่าพายุลูกใหญ่... ขณะอยู่ที่ความสูงสำหรับการเดินทางตามปกติ (cruise altitude)” โดยจุดเกิดเหตุอยู่นอกชายฝั่งทะเลทางตอนใต้ของจีน
สิงคโปร์แอร์ไลน์สซึ่งเป็นสายการบินใหญ่อันดับ 3 ของเอเชียตามมูลค่าตลาด มีฝูงบินแอร์บัส A330-300 อยู่ทั้งสิ้น 29 ลำในปัจจุบัน และยังมีเครื่องบินรุ่นซูเปอร์จัมโบ้อย่าง แอร์บัส A380-800 อีก 19 ลำ