รอยเตอร์ - ผู้พิพากษาสหรัฐฯ ตัดสินให้เจ้าของร้านเบเกอรีแห่งหนึ่งในรัฐออริกอนจ่ายค่าทำขวัญเป็นเงินถึง 135,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4,400,000 บาท) แก่คู่รักเลสเบี้ยนที่ถูกพวกเขาปฏิเสธออเดอร์ “เค้กแต่งงาน” เมื่อปี 2013
คำตัดสินของผู้พิพากษา อลัน แม็กคัลลัฟ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วอาจทำให้ แอรอน และ เมลิสซา ไคลน์ สองผัวเมียซึ่งเปิดร้านเบเกอรีอยู่ในเมืองพอร์ตแลนด์ ต้องเสียเงินค่าทำขวัญถึง 60,000 ดอลลาร์สหรัฐ ให้แก่ ลอเรล โบว์แมน-ไครเยอร์ และอีก 75,000 ดอลลาร์สหรัฐ แก่ ราเชล โบว์แมน-ไครเยอร์
เหตุการณ์เกิดขึ้นระหว่างที่สองสาววางแผนจะเข้าพิธีวิวาห์ในปี 2013 และได้ไปสั่งเค้กแต่งงานจากร้านของไคลน์ แต่เจ้าของร้านกลับไม่ยอมรับออเดอร์โดยอ้างว่าขัดต่อหลักศาสนาคริสต์
ลอเรล และ ราเชล ได้แต่งงานกันสมใจในปี 2014 หลังจากผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางมีคำสั่งยกเลิกแบนสมรสเกย์
สำนักงานแรงงานและอุตสาหกรรม (BOLI) แห่งรัฐออริกอนชี้ว่า สิ่งที่สองผัวเมีย ไคลน์ ทำเข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมายต่อต้านการแบ่งแยกกีดกัน เนื่องจากร้านเบเกอรีของพวกเขาไม่ได้จดทะเบียนเป็นองค์กรศาสนา
อย่างไรก็ตาม คำสั่งของผู้พิพากษายังไม่ถือเป็นที่สุด จนกว่า แบรด อาวาเกียน กรรมาธิการ BOLI จะพิจารณาบทลงโทษที่เหมาะสมและประกาศออกมาภายในฤดูร้อนปีนี้ ซึ่งอาจทำให้วงเงินค่าทำขวัญลดลงหรือเพิ่มขึ้นก็ได้
ตามกฎหมายของรัฐออริกอน เจ้าของธุรกิจไม่มีสิทธิ์กีดกันหรือปฏิเสธที่จะให้บริการแก่ลูกค้าเพียงเพราะรสนิยมทางเพศ
พอล ธอมป์สัน ทนายของคู่รักเลสเบี้ยนระบุว่า เวลานี้ยังไม่สามารถให้ความเห็นใดๆ ได้เพราะคดียังไม่ถึงที่สุด ส่วนทนายฝ่ายเจ้าของร้านเบเกอรีก็ไม่ออกมาให้สัมภาษณ์เช่นกัน
สองผัวเมียไคลน์ตอบโต้คำสั่งของผู้พิพากษา โดยขอระดมทุนช่วยเหลือผ่านเว็บไซต์ GoFundMe แต่ปรากฏว่าเพจของพวกเขาถูกปิดไปเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี องค์กร Samaritan’s Purse ซึ่งเป็นมูลนิธิช่วยเหลือชาวคริสต์นานาชาติในมลรัฐนอร์ทแคไรไลนา ได้ประกาศระดมทุนช่วยเหลือครอบครัวไคลน์ โดยโพสต์ข้อความบนเว็บไซต์ว่า “ช่วยเหลือคู่สามีภรรยาชาวคริสต์ในออริกอนที่ถูกเรียกค่าทำขวัญ เพราะไม่ให้บริการพวกเลสเบี้ยน”