รอยเตอร์ - เกาหลีใต้ระบุในวันนี้ (27 เม.ย.) ว่า พวกเขาได้อนุมัติข้อเรียกร้องของกลุ่มบรรเทาทุกข์เอกชนกลุ่มหนึ่งที่จะส่งปุ๋ยให้กับเกาหลีเหนือ ซึ่งถือเป็นความเคลื่อนไหวลักษณะนี้ครั้งแรกในรอบเกือบ 5 ปีที่ส่งสัญญาณถึงการคลายลงเล็กน้อยของมาตรการคว่ำบาตรที่มีการบังคับใช้หลังจากที่หนึ่งในเรือของกองทัพเรือโสมขาวถูกโจมตี
กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ ซึ่งดูแลเรื่องความสัมพันธ์กับโสมแดง ระบุว่า พวกเขาอนุมัติการส่งปุ๋ยปริมาณ 15 ตันนี้ในฐานะส่วนหนึ่งของโครงการของกลุ่มการกุศลกลุ่มหนึ่ง เพื่อสร้างฟาร์มเรือนกระจกในเกาหลีเหนือ
การอนุมัติดังกล่าวมีขึ้นทั้งๆ ที่เกิดภาวะชะงักชะงันในการเจรจาระหว่างสองรัฐนี้ และมีการห้ามให้ความช่วยเหลือขนานใหญ่จากโดยรัฐหรือเอกชนแก่ประเทศที่ยากจนแห่งนี้นับตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา แม้ว่าความช่วยเหลือในบางรูปแบบอย่างเช่น ยา จะได้รับอนุญาตตามหลักมนุษยธรรมก็ตาม
เกาหลีใต้บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรในเดือนพฤษภาคมปี 2010 ภายหลังหนึ่งในเรือของกองทัพเรือถูกล่มด้วยการโจมตีจากตอร์ปิโด คร่าชีวิตลูกเรือไป 46 คน นำมาซึ่งการยุติการแลกเปลี่ยนทางการเมืองและการค้ากับเกาหลีเหนือเกือบทั้งหมด ด้านโสมแดงปฏิเสธข้อกล่าวหาของโซลที่ว่า พวกเขาอยู่เบื้องหลังการโจมตีดังกล่าว
ถึงแม้ว่าการอนุมัติการส่งปุ๋ยครั้งนี้จะเป็นสัญลักษณ์ในฐานะครั้งแรกของการผ่อนปรนในรอบ 5 ปี แต่เจ้าหน้าที่กระทรวงรวมชาติก็ระบุว่า นั่นไม่ได้หมายความโดยอัตโนมัติว่า รัฐบาลกำลังพิจารณาเรื่องการกลับมาให้ความช่วยเหลือขนานใหญ่ที่สนับสนุนโดยรัฐ
“การสนับสนุนด้านปุ๋ยแก่เกาหลีเหนือขนานใหญ่ควรคำนึงถึงสถานการณ์ระหว่างสองเกาหลีและฉันทามติของสังคม” เจ้าหน้าที่กระทรวงรวมชาติ ระบุ
มูลนิธิกยองนัม กองทุนการกุศลที่ดำเนินการโดยบริษัทผู้ผลิตเตียงนอน เอส (Ace) กำลังดำเนินโครงการสนับสนุนด้านเกษตรกรรมเพื่อสร้างเรือนกระจกให้กับชาวเกาหลีเหนือและให้อุปกรณ์ทำการเกษตร
ในช่วงเวลาของความสัมพันธ์อันอบอุ่นที่เริ่มต้นในปี 2000 เกาหลีใต้ส่งปุ๋ยให้กับเกาหลีเหนือมากถึง 350,000 ตันต่อปี และข้าวอีกมากถึง 500,000 ตัน ในฐานะการแสดงความหวังดีโดยบรรดาผู้นำสายเสรีนิยมในโซลที่อยู่ในตำแหน่ง ณ ช่วงเวลานั้น
การเลือกตั้งของผู้นำสายอนุรักษนิยมรายหนึ่งในเกาหลีใต้ที่เข้ารับตำแหน่งในปี 2008 ได้ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองชาติเสื่อมทรามลง พร้อมกับความช่วยเหลือจากเกาหลีใต้ได้ที่ตกลดลงอย่างฉับพลัน
การผลิตอาหารในเกาหลีเหนือได้พัฒนาขึ้นในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เนื่องจากสภาพอากาศที่เหมาะสมและการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ในนโยบายการเกษตรของประเทศนี้ แต่กระนั้นโสมแดงก็ยังคงพึ่งพาความช่วยเหลือจากต่างชาติเพื่อชดเชยส่วนที่ขาด