หน้าบาง! นายกฯ เกาหลีใต้ขอลาออก หลังถูกหารับเงินบริจาคผิดกฎหมาย

รอยเตอร์ - นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ เสนอลาออกจากตำแหน่ง หลังถูกกล่าวหารับเงินผิดกฎหมายจากนักธุรกิจรายหนึ่งที่แขวนคอตายไปเมื่อช่วงต้นเดือนเมษายน จากรายงานของยอนฮับในวันอังคาร (21 เม.ย.) ข่าวคราวอื้อฉาวที่กัดเซาะประธานาธิบดีพัก กึน-ฮเย ซึ่งเพิ่งประกาศจัดการปัญหาคอร์รัปชันอย่างจริงจังไปหมาดๆ

นายอี วาน-คู นายกรัฐมนตรีแดนโสมขาว ปฏิเสธคำกล่าวหาที่ว่าเขารับเงินสนับสนุนงบหาเสียง 30 ล้านวอน (27,000 ดอลลาร์) จากนายซุง วาน-จอง ก่อนที่นายซุงจะถูกพบเป็นศพเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาในสภาพแขวนคอตายใต้ต้นไม้บนเนินเขาใกล้บ้านพักในกรุงโซล ระหว่างกำลังถูกสอบสวนในฐานความผิดฉ้อโกงและติดสินบน

ในส่วนของประธานาธิบดีพัก กึน-ฮเย อยู่ในปีที่ 3 ของวาระการดำรงตำแหน่งสมัยเดียว 5 ปี และพรรคแซนูรีของเธอต้องเผชิญงานหนักในศึกเลือกตั้งทั่วไปในปีนห้า หากต้องการควบคุมเสียงข้างมากของสมัชชาที่มีอยู่ทั้งหมด 300 ที่นั่ง “เรายืนยันได้ว่านายกรัฐมนตรีลี แสดงความประสงค์ว่าเขาจะลาออก” สำนักข่าวยอนฮับอ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบประธานาธิบดีที่ร่วมเดินทางเยือนเปรูพร้อมกับนางพัก

สำหรับนางพัคอยู่ระหว่างโปรแกรมเยือน 4 ประเทศในอเมริกาใต้ และอเมริกากลาง โดยมีกำหนดกลับในวันที่ 27 เมษายน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงโซล ไม่สามารถยืนยันรายงานข่าวการลาออกกับเอเอฟพีได้ และเมื่อสอบถามไปยังสำนักนายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้รับคำตอบ

เก้าอี้นายกรัฐมนตรีในเกาหลีใต้เป็นเพียงตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับงานพิธีการต่างๆ ของรัฐเสียเป็นส่วนใหญ่ในฐานะหัวหน้าอย่างเป็นทางการของรัฐบาลซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยประธานาธิบดี ขณะที่นโยบายด้านการบริหารจะดำเนินการโดยรัฐบาลและผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีพักเพิ่งกล่าวว่าไม่มีใครได้รับการยกเว้นจากการตรวจสอบอย่างละเอียดด้านคอร์รัปชันและกระทำผิดต่างๆ และบ่งชี้ว่าเธอพร้อมปลดทุกคนออกจากตำแหน่งหากว่าคนคนนั้นถูกพบว่ามีความฐานตามข้อกล่าวหาเหล่านั้น

ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าถูกพบฆ่าตัวตาย นายซุงให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนท้องถิ่นว่าเขาได้มอบเงินสนับสนุนทางการเมืองกับผู้ช่วยคนสนิทของประธานาธิบดีพัคและสมาชิกที่มีชื่อเสียงของพรรคแซนูรี ส่วนนายลีถูกกล่าวหาว่ารับเงิน 30 ล้านวอนจากนายซุง ในปี 2013 ช่วงที่เขาลงสมัครหวังกลับมานั่งเก้าอี้รัฐสภาอีกสมัย

อัยการออกหมายเชิญตัวซองไปสอบปากคำ แต่เจ้าตัวกลับเสียชีวิตเสียก่อน โดยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานพบกระดาษแผ่นหนึ่งในกระเป๋าเสื้อของซอง เป็นรายชื่อบุคคลต่างๆ ที่รับ “สินน้ำใจ” จากผู้ตาย โดยนอกจากนายกรัฐมนตรีแล้ว ยังรวมถึงนายอี บยอง-กี หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบประธานาธิบดีด้วย

ภายใต้กฎหมายการเงินในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านความเห็นชอบเมื่อปี 2004 การสนับสนุนการเงินทางการเมืองเกินกว่า 100,000 วอนถือว่าผิดกฎหมาย ขณะเดียวกัน กฎหมายนี้ยังห้ามบริษัทต่างๆบริจาคเงินทางการเมือง เพื่อป้องกันความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่างรัฐบาลกับเหล่านักธุรกิจที่มองหาผลประโยชน์แก่ตัวเอง