รอยเตอร์ – สื่อเมืองเบียร์เผย อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองอิรักสมัย ซัดดัม ฮุสเซน เป็นผู้วางยุทธศาสตร์ให้แก่กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) และยังร่างพิมพ์เขียวทั้งหมดสำหรับการยึดภาคเหนือซีเรียและจัดตั้งรัฐที่ปกครองโดยคอลีฟะห์ (กาหลิบ) ขึ้นด้วย
ซามีร์ อับดุล มูฮัมหมัด อัล-คลิฟาวี หรือ “ฮัจญี บาการ์” ซึ่งถูกกบฏซีเรียปลิดชีพไปเมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้ว “เป็นผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังไอเอสมานานหลายปี” ตามรายงานของนิตยสารรายสัปดาห์ แดร์ ชปีเกล ฉบับเมื่อวานนี้ (19 เม.ย.)
เอกสารลับ 31 ฉบับซึ่งมีทั้งลิสต์รายชื่อและแผนผังที่เขียนด้วยลายมือของ บาการ์ ตกอยู่ในมือนักรบกบฏกลุ่มหนึ่งในจังหวัดอะเลปโปของซีเรีย หลังจากที่ไอเอสหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่ง แดร์ ชปีเกล ต้องใช้เวลาเจรจาต่อรองอยู่นานกว่าจะได้เข้าถึงข้อมูลเหล่านี้
แดร์ ชปีเกล ระบุว่า เอกสารทั้งหมดคือ “พิมพ์เขียวสำหรับการยึดครอง” โดยให้รายละเอียดขั้นตอนการจัดตั้งรัฐคอลีฟะห์ขึ้นในภาคเหนือของซีเรีย ตลอดจนคำแนะนำสำหรับการจารกรรมข้อมูล สังหารหมู่ และลักพาตัว
นิตยสารฉบับนี้ระบุว่า บาการ์ มีชีวิตที่ “ขมขื่นและไร้งานทำ” หลังจากสหรัฐฯ ประกาศยุบกองทัพอิรักในปี 2003 หลังจากนั้นเขาก็ถูกคุมขังอยู่ในค่ายทหารบุกกาและเรือนจำอบูกราอิบระหว่างปี 2006-2008
หลายปีนับจากนั้น อิทธิพลของ บาการ์ เพิ่มขึ้นอย่างมากในแวดวงนักรบญิฮาด และในปี 2010 บาการ์ กับกลุ่มอดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองอิรักก็ได้ยกครูสอนศาสนา อบูบาการ์ อัล-บักดาดี ขึ้นเป็นหัวหน้ากลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม ว่ากันว่าการทำเช่นนี้ก็เพื่อสร้าง “มิติทางศาสนา” ให้แก่นักรบสุหนี่กลุ่มนี้นั่นเอง
แดร์ ชปีเกล ยังอ้างคำพูดของนักหนังสือพิมพ์ชาวอิรักคนหนึ่งที่ว่า บาการ์ เป็น “พวกชาตินิยม แต่ไม่ใช่อิสลามิสต์”
กลุ่มไอเอสซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องพฤติกรรมป่าเถื่อน ข่มขืน ทรมาน และฆ่าตัดศีรษะเหยื่อ ประกาศจัดตั้งรัฐคอลีฟะห์ขึ้นเมื่อเดือนมกราคม ปี 2014 โดยครอบคลุมพื้นที่ในอิรักและซีเรียที่ตกอยู่ใต้อิทธิพลของพวกเขา