รอยเตอร์ – เหตุคาบอร์มพุ่งเป้ากองทหารต่างชาติได้คร่าชีวิตพลเรือนชาวอัฟกัน 3 ราย ขณะที่เหตุระเบิดอีกจุดหนึ่งส่งผลให้มีพลเรือน 12 รายเสียชีวิตระหว่างที่พวกเขากำลังเดินทางไปงานแต่งงาน เจ้าหน้าที่ ระบุ
สงครารมระหว่างอัฟกานิสถานกับกลุ่มกบฏตอลิบานอยู่ในช่วงยื้อเยื้อ หลังจากที่กองทหารนานาชาติยุติบทบาทการสู้รบเมื่อปีที่แล้ว และยังคงพลเรือนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมากอยู่
กลุ่มตอลิบานอ้างความรับผิดชอบต่อการโจมตีใกล้เมืองจาลาลาบัดทางตะวันออกในวันนี้ (10) ที่เพ่งเล็งคาราวานกองทหารนานาชาติ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจฝึกฝนกองกำลังอัฟกันที่ยังไม่จบ
“เหตุคาร์บอมดังกล่าวเกิดขึ้นนอกสนามบินจาลาลาบัดขณะที่กองทหารนานาชาติกำลังเคลื่อนผ่าน” ฟาเซล อาห์หมัด เชอร์ซัด หัวหน้าตำรวตจังหวัดนันการ์ฮาร์ กล่าว
จาลาลาบัดเป็นเมืองเอกของจังหวัดนันการ์ฮาร์ บริเวณพรมแดนติดกับปากีสถาน จังหวัดนี้มีเหตุการโจมตีของกลุ่มติดอาวุธเกิดขึ้นหลายระลอกเมื่อปีที่แล้ว
โฆษกของกองกำลังนี้ ระบุว่ากองทหารนานาชาติในคาราวานดังกล่าวได้รับบาดเจ็บกันเล็กน้อย
อีกจุดหนึ่งในวันศุกร์ (10) ระเบิดข้างถนนได้อัดปะทะรถคันหนึ่งที่มีผู้โดยสารอยู่เต็มคัน ซึ่งอยู่ระหว่างเดินทางไปงานแต่งงานงานหนึ่งในจังหวัดกาซนีทางใต้ของกรุงคาบูล ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย เจ้าหน้าที่ ระบุ
ราวครึ่งหนึ่งของผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิงและเด็ก โมฮัมหมัด อาลี อาห์มาดี รองผู้ว่าการจังหวัดนี้ ระบุ
กลุ่มตอลิบาน ซึ่งถูกโค่นล้มลงจากการเป็นรัฐบาลโดยกการรุกรานที่นำโดยสหรัฐฯในปี 2001 ระบุว่า พวกเขาพยายามที่จะจำกัดจำนวนผู้บาดเจ็บล้มตายที่เป็นพลเรือนในการต่อสู้ของพวกเขาเพื่อโค่นล้มรัฐบาลฝักใฝ่ตะวันตกของอัฟกานิสถาน
อย่างไรก็ตาม องค์การสหประชาชาติ ระบุว่า กบฏกลุ่มนี้และพันธมิตรของพวกเขามีส่วนรับผิดชอบถึง 3 ใน 4 ของจำนวนผู้บาดเจ็บล้มตายที่เป็นพลเรือน ซึ่งทะยานแตะยอดใหม่ที่ 10,000 รายเมื่อปีที่แล้ว