รอยเตอร์ – การตกฮวบลงของค่าเงินรูเบิลกำลังสร้างปัญหาให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากชาวรัสเซียต้องครุ่นคิดเป็นสองเท่าว่าจะควักสตางค์อีกเท่าหนึ่งดีหรือไม่สำหรับใช้จ่ายในการพักร้อนริมชายหาดครั้งหน้าของพวกเขาในเวียดนาม , ไทย หรือกัมพูชา
ค่าเงินรูเบิลตกลง 43 เปอร์เซ็นต์ต่อดอลลาร์ในปีที่แล้ว จากผลกระทบของราคาน้ำมันที่ดิ่งฮวบลง และมาตรการคว่ำบาตรที่ตะวันตกบังคับใช้จากบทบาทของมอสโคในความขัดแย้งทางการเมืองของยูเครน ชาวรัสเซียในตอนนี้ต้องควักเงินมากถึง 140,000 รูเบิล (ราว 80,406 บาท) สำหรับทริปไปเวียดนามซึ่งรวมถึงค่าตั๋วเครื่องบินและที่พัก เพิ่มขึ้นจากที่เคยต้องจ่ายเพียง 60,000 รูเบิลในปีที่แล้ว หนังสือพิมพ์ของทางการเวียดนามประมาณการณ์ สำหรับผู้ที่ท่องเที่ยวอยู่ที่เวียดนาม ตอนนี้พวกเขากำลังซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแทนการออกไปทานข้าวนอกที่พัก สื่อท้องถิ่นรายงาน
รายได้จากการท่องเที่ยวของชาวรัสเซียในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คิดเป็นเงินหลายพันล้านดอลลาร์ และนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียมีจำนวนมากเป็นอันดับสองรองจากนักท่องเที่ยวชาวจีน เมนูอาหารรัสเซียมีอยู่ทั่วไปในภูเก็ต ร้านรวงหาบเร่แผงลอยริมชายหาดเวียดนามมีข้อความภาษารัสเซียกำกับ ในปี 2013 ตอนที่จำนวนนักท่องเที่ยวรัสเซียในเวียดนามเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว สายการบินแห่งชาติ เวียดนามแอร์ไลน์ ได้เปิดเที่ยวบินตรงระหว่างกรุงมอสโกกับอดีตฐานทัพอากาศสหรัฐฯ ในเมืองกามรัญใกล้กับเมืองชายหาดยอดนิยมอย่างญาจาง
ในเดือนมกราคม-มีนาคม มีชาวรัสเซียมาเยือนเวียดนามราว 95,800 คน ลดลง 27 เปอร์เซ็นต์จากปีที่แล้วและเป็นการลดลงแบบไตรมาสครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2012 กระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชานับจำนวนนักท่องเที่ยวรัสเซียได้ 18,300 คนในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2015 ส่วนไทยดึงดูดนักท่องเที่ยวรัสเซียได้ 1.6 ล้านคนในปี 2014 ลดลง 8.6 เปอร์เซ็นต์ และจำนวนผู้เดินทางเข้ามาใหม่ได้ตกฮวบลง 46 เปอร์เซ็นต์ในเดือนมกราคมปีนี้ ในเดือนเดียวกัน นักท่องเที่ยวรัสเซียในฟิลิปปินส์ได้ลดลง 12 เปอร์เซ็นต์
“นักท่องเที่ยวรัสเซียในไทยลดลงอย่างต่อเนื่องเรื่อยมานับตั้งแต่ปีที่แล้ว หลักๆ แล้วเป็นผลมาการเสื่อมค่าของเงินรูเบิล” สุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร นายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าว และเสริมว่า “แหล่งท่องเที่ยวที่เดิมทีเป็นที่นิยมในหมู่ชาวรัสเซีย รวมถึงภูเก็ตและพันทยา ได้รับผลกระทบอย่างมาก”
