รอยเตอร์ - สมเด็จพระราชาธิบดี ซัลมาน แห่งซาอุดีอาระเบีย ทรงเชิญนายกรัฐมนตรี ไฮดาห์ อัล-อาบาดี ของอิรัก ให้มาเยือนราชอาณาจักรของพระองค์ สำนักงานของอาบาดี ระบุวันนี้ (23 มี.ค.) โดยถือเป็นสัญญาณที่เด่นชัดที่สุดของความสัมพันธ์ที่กำลังพัฒนาระหว่างสองประเทศหลังจากที่ตึงเครียดกันมานานหลายสิบปี
สำนักงานของอาบาดีไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการเชื้อเชิญครั้งนี้หรือการเยือนที่อาจเกิดขึ้นนี้ ซึ่งจะเป็นครั้งแรกของเขาในฐานะนายกรัฐมนตรี รวมถึงรายละเอียดที่ว่าการเยือนนี้อาจมีขึ้นเมื่อใดด้วย แต่การเชิญครั้งนี้ทำให้หลายเดือนของความร่วมมือที่ดีขึ้นระหว่างริยาดและแบกแดดนับตั้งแต่ที่ อาบาดี เข้ามาแทนที่อดีตนายกรัฐมนตรี นูรี อัล-มาลิกี เมื่อฤดูร้อนปีที่แล้ว มีความก้าวหน้าชัดเจนยิ่งขึ้นกว่าเดิม
อิรักและซาอุดีอาระเบียได้ประสบพบเจอช่องทางใหม่ที่จะร่วมมือกันในศึกปราบปรามกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ซึ่งทั้งสองประเทศต่างมองว่าเป็นภัยคุกคาม แต่ความคลางแคลงใจที่มีกันมานานก็ยังไม่ได้ไปหายไปไหน
ซาอุดีอาระเบียคาดหวังว่า อาบาดีจะจัดสรรที่นั่งในรัฐบาลให้กับชาวสุหนีเชื้อสายอิรักมากกว่าในสมัยของ มาลิกี และหวังว่าเขาจะพิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถที่จะปลีกตัวออกห่างจากอิหร่านซึ่งเป็นพันธมิตรหลักของแบกแดดและศัตรูในภูมิภาครายสำคัญที่สุดของริยาดห์ ได้มากกว่านี้
“สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งซาอุดีอาระเบียทรงแสดงความประสงค์ของซาอุดีอาระเบียที่จะยกระดับความร่วมมือกับอิรัก และทรงส่งคำเชื้อเชิญให้นายกรัฐมนตรี อาบาดี ไปเยือนซาอุดีอาระเบีย” ถ้อยแถลงบนเว็บไซต์ของสำนักงานของอาบาดีระบุ
เมื่อปีที่แล้ว ริยาดห์ระบุว่า พวกเขาจะเปิดทำการสถานทูตประจำกรุงแบกแดดใหม่อีกครั้งเร็วๆ นี้ หลังจากปิดทำการในเดือนสิงหาคมปี 1990 เมื่ออิรักบุกรุกรานคูเวต แต่การรับประกันความปลอดภัยของภารกิจทางการทูตกำลังทำให้กระบวนการนี้ประสบความยุ่งยาก บรรดานักการทูตในอ่าวอาหรับระบุ
นับตั้งแต่ที่กลุ่มพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ เข้ารุกรานอิรักในปี 2003 ซาอุดีอาระเบียก็มองว่าผู้นำของแบกแดดไม่ได้เป็นอะไรไปมากกว่าหุ่นเชิดของเตหะราน ข้อมูลจากเว็บไซต์ วิกิลีกส์ ซึ่งอ้างอิงจากโทรเลขมากมายของสถานทูตสหรัฐฯ ระบุ