รอยเตอร์ - กองทัพเกาหลีเหนือมีศักยภาพพอที่จะยิงอาวุธนิวเคลียร์ออกไปทำลายเป้าหมาย และพร้อมนำขีปนาวุธนิวเคลียร์ออกมาใช้ตอบโต้หากถูกศัตรูโจมตี ทูตเกาหลีเหนือประจำกรุงลอนดอนให้สัมภาษณ์สื่ออังกฤษ วานนี้ (20 มี.ค.)
“สหรัฐฯ ไม่ใช่ชาติเดียวในโลกที่ผูกขาดอาวุธนิวเคลียร์” เอกอัครราชทูต ฮยุน ฮัก-บอง บอกกับผู้สื่อข่าวสกายนิวส์ที่สถานทูตเกาหลีเหนือประจำกรุงลอนดอน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า เกาหลีเหนือซึ่งถอนตัวออกจากสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์เมื่อปี 1993 สามารถยิงขีปนาวุธนิวเคลียร์ได้แล้วใช่หรือไม่ ฮยุน ก็ตอบว่า “ได้ทุกเวลา”
“ถ้าสหรัฐฯ โจมตีเราก่อน เราก็ต้องตอบโต้ ถ้าใช้สงครามตามรูปแบบ (conventional war) เราก็พร้อมที่จะสู้ตามรูปแบบ ถ้าใช้อาวุธนิวเคลียร์ เราก็จะตอบโต้ด้วยนิวเคลียร์ ถึงเราไม่ต้องการสงคราม แต่เราก็ไม่ขลาดกลัว” ทูต ฮยุนกล่าว
รี ซู ยอง รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือ กล่าวเมื่อวันที่ 3 มี.ค.ว่า กองทัพโสมแดงมีศักยภาพที่จะป้องกันภัยคุกคามนิวเคลียร์จากสหรัฐฯ และอาจเป็นฝ่าย “โจมตีก่อน” ถ้าจำเป็น พร้อมกันนั้นยังได้ประณามภารกิจซ้อมรบระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีใต้ว่าเป็นพฤติกรรมยั่วยุ
วอชิงตันยอมรับว่า “กังวลอย่างยิ่ง” เกี่ยวกับกิจกรรมนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ซึ่งถือว่าละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ
เกาหลีเหนือเคยทดลองระเบิดนิวเคลียร์มาแล้ว 3 ครั้ง ล่าสุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2013
ผู้บัญชาการกองกำลังสหรัฐฯในเกาหลีใต้ กล่าวเมื่อเดือน ต.ค.ปีที่แล้วว่า ตนเชื่อว่าเปียงยางสามารถย่อส่วนระเบิดนิวเคลียร์เพื่อติดตั้งบนหัวรบได้แล้ว แม้ยังไม่พบร่องรอยการทดสอบหรือหลักฐานใดๆ ที่จะยืนยันได้ก็ตาม
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเมื่อสื่อมวลชนถามว่าโสมแดงยิงขีปนาวุธนิวเคลียร์ได้แล้วจริงหรือไม่ โดยอ้างว่าเป็น “ข่าวกรอง” แต่ก็ย้ำว่า สหรัฐฯ “มีความพร้อมเต็มที่ที่จะยับยั้ง ป้องกัน และตอบโต้ภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ”
พล.ร.ท.เจมส์ ไซริง ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันขีปนาวุธสหรัฐฯ (MDA) แถลงเมื่อวันพุธ (18)ว่า ทางสำนักงานกำลังทดสอบระบบป้องกันขีปนาวุธที่สมจริงมากยิ่งขึ้น เพื่อรับมือการโจมตีจากเกาหลีเหนือและอิหร่าน โดยยอมรับว่า โสมแดงครอบครองขีปนาวุธนับร้อยๆ ลูกที่อาจจะถล่มฐานทัพสหรัฐฯ ในเกาหลีใต้และญี่ปุ่นได้
ไซริง ยังได้แจ้งต่ออนุกรรมการกลาโหมประจำคณะกรรมการจัดสรรงบประมาณแห่งวุฒิสภาสหรัฐฯ ว่า กองทัพเกาหลีเหนือและอิหร่านอาจยิงขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีปได้สำเร็จอย่างเร็วที่สุดในปีนี้
