เอเจนซีส์ – เมื่อวานนี้(9) นิโคลัส มาดูโร ประธานาธิบดีเวเนซุเอลาขอให้รัฐสภาเวเนซุเอลามอบอำนาจสั่งการพิเศษเพื่อสามารถใช้อำนาจทางบริหารตอบโต้สหรัฐฯที่ได้ประกาศคว่ำบาตร และประธานาธิบดีสหรัฐฯบารัค โอบามาออกแถลงในวันจันทร์(9)ว่า เวเนซุเอลาเป็นภัยความมั่นคงอเมริกา
ประธานาธิบดีเวเนซเอลา นิโคลัส มาดูโร ได้ประกาศกลาวรัฐสภาเวเนซุเอลาเมื่อวานนี้(10)ร้องขออำนาจทางบริหารสั่งการพิเศษในการตอบโต้การคว่ำบาตรสหรัฐฯที่ออกมาจากประธานาธิบดีสหรัฐฯในวันก่อนหน้านั้น ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่ฝ่ายค้านเวเนซุเอลากล่าวหาว่า เป็นการรวบอำนาจ
และหากรัฐสภาเวเนซุเอลาที่มีเสียงพรรครัฐบาลคุมอยู่ผ่านกฎหมาย “Enabling Law” ตามคำขอของมาดูโร จะถือว่าเป็นครั้งที่สองของผู้นำเวเนซุเอลาวัย 52 ปี เพิ่มอำนาจมากขึ้นให้กับตนเองนับตั้งแต่ชนะการเลือกตั้งในปี 2013
“ผมมายังสภาเวเนซุเอลาที่ทรงเกียรติแห่งนี้เพื่อขอให้อนุมัติกฎหมาย “Enabling Law”เพื่อตอบโต้กับความก้าวร้าวของประเทศที่มีอำนาจมากที่สุดในโลก “สหรัฐฯ” ต่อประเทศอันแสนงามของพวกเรา” และเขาเสริมต่อว่า “กฎหมายใหม่นี้จะเป็นการเตรียมความพร้อม ซึ่งเวเนซุเอลาไม่ควรประมาท”
ในขณะที่บรรดาศัตรูทางการเมืองของเวเนซุเอลากล่าวว่า มาดูโรใช้โอกาสที่ความสัมพันธ์ระหว่างคาราคัสและวอชิงตันตกต่ำสุดในช่วงเวลาเกือบ 2 ปีของการอยู่ในอำนาจสร้างความชอบธรรมให้กับรัฐบาลเผด็จการของตนเอง หันเหความสนใจของรัฐสภา และเบี่ยงเบนความสนใจจากปัญหาการหดตัวทางเศรษฐกิจ และปัญหาสินค้าพื้นฐานขาดตลาดอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามมาดูโรไม่ได้ระบุว่า อำนาจสั่งการพิเศษที่ร้องขอนั้น เขาจะใช้เพื่อทำอะไรอย่างเจาะจง
นอกจากนี้ประธานาบดีเวเนซุเอลายังประกาศเพิ่มเติมว่าจะมีการฝึกซ้อมรบครั้งใหญ่ทั่วประเทศ ในวันเสาร์(14) เพื่อทำให้มั่นใจว่าทหารสหรัฐฯจะไม่สามารถมากล้ำกลายประเทศแหล่งบ่อน้ำมันแห่งนี้ได้
ทั้งนี้รัฐสภาเวเนซุเอลาต้องการลงคะแนน 2 ครั้งเพื่ออนุมัติกฎหมาย “Enabling Law” หลังจากรัฐบาลเวเนซุเอลายื่นญัตติเข้าสภาอย่างเป็นทางการ ซึ่งในอดีตทั้งมาดูดร และฮูโก ชาเวซ อดีตประธานาธิบดีเวเนซุเอลาที่ล่วงลับต่างล้วนเคยได้รับการอนุมัติกฏหมายแบบด่วนพิเศษจากรัฐสภาเวเนซุเอลา
ก่อนหน้านี้ในวันจันทร์(9)ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ของสหรัฐฯ ได้ลงนามในคำสั่งคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโส 7 คน ของเวเนซุเอลา แต่ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับด้านการพลังงานหรือเศรษฐกิจ ซึ่งประกาศคว่ำบาตรครั้งนี้ของสหรัฐฯ ส่งผลให้สถานการณ์ระหว่างสหรัฐฯ กับเวเนซุเอลาตึงเครียด ทั้งๆ ที่สหรัฐฯ เพิ่งจะหันมาคืนดีกับคิวบาที่เคยเป็นศัตรูกับสหรัฐฯ มาช้านาน
การประกาศให้ประเทศใดเป็นภัยคุกคามแห่งชาติ ถือเป็นก้าวแรกของการริเริ่มใช้โครงการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ กระบวนการนี้เคยใช้มาแล้วกับประเทศอื่น เช่น อิหร่าน และซีเรีย
ทางด้านเดลซี โรดริเกวซ รัฐมนตรีต่างประเทศของเวเนซุเอลา กล่าวว่า เวเนซุเอลาจะตอบโต้การเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ โดยเร็วที่สุด และเวเนซุเอลาได้เรียกตัวแมกซิมิเลียน อาร์เวเลซ อุปทูตเวเนซุเอลาประจำกรุงวอชิงตัน กลับประเทศเพื่อหารือ