เอเอฟพี/รอยเตอร์ - เครื่องบินของสายการบินเดลตา แอร์ไลนส์ ลื่นออกจากรันเวย์และไถลไปกระแทกกับรั้วอย่างจังเมื่อวันพฤหัสบดี (5 มี.ค.) หลังจากลงจอด ณ ท่าอากาศยานลาการ์เดียท่ามกลางพายุหิมะ ขณะที่หลายพื้นที่ของสหรัฐฯต้องเผชิญกับสภาพอากาศเลวร้าย จนต้องปิดโรงเรียน ยกเลิกเที่ยวบินหลายพันเที่ยวและทำผู้ขับขี่ติดค้างอยู่บนท้องถนนเป็นจำนวนมาก
เที่ยวบิน 1086 ของเดลตา แอร์ไลนส์ พร้อมผู้โดยสาร 125 คน จากแอตแลนตาสู่นิวยอร์ก ลื่นไถลออกจากรันเวย์ ตอนประมาณ 11.00 น.(ตรงกับเมืองไทย 23.00 น.) หลังจากลงจอด สายการบินระบุโดยปราศจากยืนยันว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือไม่ ขณะที่สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่ามีผู้โดยสารบางส่วนบนเครื่องได้รับบาดเจ็บเล็กๆ น้อยๆ
จูมกของเครื่องบินแน่นิ่งอยู่กับรั้วหลังลื่นไถลเข้าไปชนอย่างจัง ทำให้ผู้โดยสารต้องปีนออกมาทางประตูบริเวณเหนือปีก พร้อมอพยพด้วยการเดินฝ่าหิมะหนาไปขึ้นรถบัสต่อไปยังอาคารผู้โดยสารของสนามบิน ส่วนหน่วยดับเพลิงนิวยอร์กเผยผ่านทวิตเตอร์ว่าเห็นร่องรอยของน้ำมันรั่วหลังจากเครื่องบิน MD88 ลำนี้ประสบอุบัติเหตุลื่นไถลออกจากรันเวย์
“ลูกค้าอพยพลงจากเครื่องบินผ่านทางลาดฉุกเฉิน และถูกพาขึ้นรถบัสเคลื่อนย้ายไปยังอาคารผู้โดยสาร สิ่งแรกที่เราให้ความสำคัญคือความปลอดภัยของลูกค้าและลูกเรือ” เดลตาระบุในถ้อยแถลง พร้อมบอกต่อว่าทางสายการบินจะร่วมมือกับเจ้าหน้าที่และผู้ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบหาสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้
ด้านสนามบินลาการ์เดียเปิดเผยว่า จำเป็นต้องปิดรัยเวย์ พร้อมเตือนนักเดินทางถึงความเป็นไปได้ของการยกเลิกเที่ยวบินหรือเดินทางล่าช้า หลังจากก่อนหน้านี้ทางเว็บไซต์ตรวจสอบสถานะการบิน flightaware.com ได้ประกาศเตือนเกี่ยวกับทัศนวิสัยต่ำท่ามกลางพายุหิมะที่พัดถล่มพื้นที่แถบนี้
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับเครื่องบินโดยสารของสายการบินเดลตา แอร์ไลนส์ เกิดขึ้นในขณะที่พายุฤดูหนาวรอบใหม่พัดจากเทกซัส มาถึงเขตนิวอิงแลนด์แล้ว ส่งผลให้ต้องปิดโรงเรียน ยกเลิกเที่ยวบินเกือบ 4,000 เที่ยวและทำผู้ขับขี่หลายร้อยคนติดค้างอยู่บนท้องถนนในเคนทักกีเมื่อค่ำคืนวันพุธ (4 มี.ค.)ตามเวลาท้องถิ่น ผลจากมีหิมะตกลงมาหนาสูงสุดถึง 21.5 นิ้ว (55 เซนติเมตร)
เขตการศึกษาหลายร้อยแห่งและรัฐบาลท้องถิ่น ซึ่งรวมถึงสภานิติบัญญัติของรัฐวอชิงตัน ดี.ซี., นิวเจอร์ซีย์, เซาท์แคโรไลนา และเทนเนสซี ต้องปิดทำการ ส่วน สตีฟ บีเชียร์ ผู้ว่าการรัฐเคนทักกี ประกาศสถานการณ์ฉูกเฉินในวันพฤหัสบดี (5 มี.ค.)
“เรากำลังเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือ” พ.ท.เคิร์ก ฮิลเบรช์ต จากกองกำลังพิทักษ์ชาติเคนทักกี ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็น พร้อมเผยว่ามีผู้ขับขี่จำนวนมากติดอยู่ในรถบนถนนสาย I-65 มานานเกือบ 12 ชั่วโมงแล้ว ส่วน เจฟฟ์ เกรกอรี นายตำรวจเคททักกี เสริมว่านอกเหลือจากรถยนต์แล้ว ยังมีรถบรรทุกพ่วงอีกอย่างน้อย 200 คันติดอยู่บนท้องถนนที่สัญจรไม่ได้โดยสิ้นเชิง
เหล่าผู้ขับขี่ที่ตกค้างได้รับการแจ้งในตอนเช้าวันพฤหัสบดี (5 มี.ค.) ว่าคงต้องใช้เวลาอีกหลายชั่วโมงในการเปิดถนนและกองกำลังพิทักษ์ชาติจะเข้าช่วยเหลือพวกเขา เช่นเดียวกับเหล่าผู้ขับขี่ติดค้างอยู่บนท้องถนนสายต่างๆทางตะวันตกของเคนทักกี
แอนดรูว์ เออร์ริสัน นักอุตุนิยมวิทยาจากสำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติสหรัฐฯเผยว่าเคนทักกี ถูกฝังอยู่ใต้หิมะ โดยเฉพาะที่เมืองแรดคลิฟฟ์ที่มีความหนาถึง 21.5 นิ้ว ส่วนที่อื่นๆภายในรัฐฯก็เผชิญกับหิมะหนาไม่ต่ำกว่า 1 ฟุต
บางพื้นที่ของอาร์คันซอ, อิลลินอยส์, อินดีแอนา, โอไฮโอ มีหิมะตกลงมาหนาถึง 11 นิ้ว ส่วนเทนเนสซี, มิสซิสซิปปีและแอละแบมา เจอกับฝนเยือกแข็ง
หลังจากเคลื่อนตัวออกจากเคนทักกี พายูฤดูหนาวก็ซัดถล่มแถบเวสต์เวอร์จิเรียและนอร์ทเทิร์นเวอร์จิเนีย เช่นเดียวกับนิวยอร์ก ซิตี, ลองไอส์แลนด์ และพื้นที่ตอนใต้ของนิวอิงแลนด์ จากข้อมูลของ flightaware.com พบว่าโดยรวมแล้วมีเที่ยวบินที่ตกยกเลิกทั่วสหรัฐฯ 3,679 เที่ยว ด้วยสนามบินต่างๆในดัลลัส, วอชิงตัน, ฟิลาเดลเฟียและพื้นที่เทศบาลนครนิวยอร์กได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุด