รอยเตอร์ – กองทัพสหรัฐฯ ประกาศยุติภารกิจก่อสร้างศูนย์รักษาผู้ติดเชื้ออีโบลาในไลบีเรียอย่างเป็นทางการ เมื่อวานนี้ (26 ก.พ.) เร็วกว่าที่กำหนดเอาไว้หลายเดือน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสัญญาณบ่งชี้ว่าวิกฤตการระบาดของเชื้อมรณะในแอฟริกาตะวันตกที่กินเวลานานข้ามปีกำลังจะสิ้นสุดลง
สหรัฐฯ เริ่มส่งทหารไปยังไลบีเรียเมื่อ 5 เดือนก่อน และทยอยเพิ่มจำนวนขึ้นจนมากกว่า 2,800 นาย ซึ่งเวลานั้นไลบีเรียเป็น 1 ใน 3 ประเทศแอฟริกาตะวันตกที่เชื้ออีโบลาระบาดหนักเป็นประวัติการณ์
ไวรัสไข้เลือดออกชนิดนี้ได้คร่าชีวิตพลเมืองไลบีเรีย, กินี และเซียร์ราลีโอนไปร่วม 10,000 คนในปี 2014 เฉพาะไลบีเรียมียอดผู้เสียชีวิตมากกว่า 4,000 คน ทว่าในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ๆ ลดลงอย่างมาก จนศูนย์ดูแลผู้ติดเชื้อหลายแห่งเริ่มที่จะปราศจากคนไข้
“แม้ปฏิบัติการทางทหารครั้งใหญ่ของเราจะสิ้นสุดลง แต่การต่อสู้เพื่อให้จำนวนผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์ยังต้องดำเนินต่อไป และ (ศูนย์บัญชาการร่วม) จะพยายามสร้างกลไกป้องกันที่ยั่งยืนในอนาคต” พล.ต. แกรี โวเลสกี ผู้บัญชาการภารกิจของสหรัฐฯ ในไลบีเรีย แถลง
ทหารอเมริกันถูกส่งเข้าไปช่วยสนับสนุนภารกิจนานาชาติในการต่อสู้เชื้ออีโบลา ซึ่งมีองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USAID) เป็นผู้นำ และเดิมทีคาดว่าจะต้องใช้เวลาระหว่าง 9-12 เดือน
ประธานาธิบดี จอห์นสัน เซอร์ลีฟ แห่งไลบีเรีย ซึ่งเดินทางเยือนกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวานนี้ (26) ได้แสดงความขอบคุณสหรัฐฯ ที่ช่วยเหลือไลบีเรียจนกระทั่งวิกฤตสาธารณสุขครั้งนี้ผ่านพ้นไปได้
ทหารอเมริกันได้ช่วยก่อสร้างศูนย์รักษาผู้ติดเชื้อ ห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่ ตลอดจนสนับสนุนด้านการขนส่งและการคมนาคม นอกจากนี้ทีมแพทย์ทหารยังได้ฝึกฝนทักษะการดูแลผู้ติดเชื้อให้แก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขท้องถิ่นราว 1,500 คน
แม้ทหารอเมริกันส่วนใหญ่จะถอนกำลังกลับประเทศในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า แต่จะยังมีทหารกว่า 100 นายประจำการอยู่ในไลบีเรียต่ออีกหลายเดือนเพื่อเฝ้าดูสถานการณ์