เอเอฟพี - ศาลสหรัฐฯ ตัดสินวานนี้ (24 ก.พ.) ให้ชายชาวเทกซัสผู้ต้องหาคดีสังหารนาวิกโยธินสหรัฐฯ เจ้าของเรื่องราวที่ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง “อเมริกัน สไนเปอร์” มีความผิดจริง และพิพากษาจำคุกเขาตลอดชีวิตโดยไม่มีโอกาสได้รับทัณฑ์บน
คณะลูกขุนปฏิเสธคำอ้างจาก เอ็ดดี เรย์ เราท์ วัย 27 ปี ที่ว่าเขาไม่มีความผิดด้วยเพราะเขามีความวิกลจริตขณะที่ลงมือสังหาร คริส ไคล์ พลแม่นปืนชื่อดัง และ ชัด ลิตเติลฟิล เพื่อนของเขาที่สนามฝึกยิงปืนแห่งหนึ่งในรัฐเทกซัสเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2013
การพิจารณาคดีดังกล่าวในเทศมณฑลอีราท ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองแดลลัสไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 160 กิโลเมตร เป็นที่จับตาของสื่อมวลชนมากมายมหาศาลทั่วอเมริกา และมีขึ้นในเวลาเดียวกับการออกฉายของภาพยนตร์ที่ตกเป็นข้อโต้เถียงของผู้กำกับ คลินต์ อีสต์วูด ซึ่งสร้างมาจากประสบการณ์ของไคล์ในอิรัก
จูดี ลิตเติลฟิล แม่ของชัด ลิตเติฟิล ได้ออกถ้อยแถลงสั้นๆ เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (24) หลังการตัดสินของคณะลูกขุน
“เรารอคอยมากว่า 2 ปีเพื่อให้พระเจ้าทรงประทานความยุติธรรมแก่พวกเราในนามของบุตรชายของพวกเรา และเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าพระองค์ทรงคู่ควรแก่การเคารพศรัทธา” และ “เราพอใจอย่างยิ่งต่อการตัดสินของคณะลูกขุน” เธอกล่าว
ไคล์ เจ้าของสถิติสังหารเป้าหมาย 160 รายในช่วงการปฏิบัติหน้าที่รับใช้กองทัพ 4 เที่ยว ได้รับการยกย่องเชิดชูในภาพยนตร์ทำเงินเรื่องนี้ซึ่งได้นักแสดงหนุ่ม แบรดลีย์ คูเปอร์ นำแสดงเป็นตัวเขา
ทนายของ เราท์ ยกความวิกลจริตเป็นข้ออ้าง และระบุว่าลูกความของเขาป่วยเป็นโรคจิต โดย เราท์ ซึ่งก็เคยเป็นนาวิกโยธินยังระบุด้วยว่า เขาป่วยเป็นโรคเครียดหลังเผชิญกับเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจ (Post Traumatic Stress Disorder หรือ PTSD)
หลังจากเหตุยิงดังกล่าวในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ปี 2013 เราท์ใช้รถกระบะของไคล์ และถูกจับกุมที่บ้านของน้องสาวตัวเองในเวลาต่อมา
เขาสารภาพว่าก่อเหตุสังหารดังกล่าวจริง หลังจากบ่นว่า “ผู้คนกำลังสูบวิญญาณของเขาและเขาสามารถได้กลิ่นคนสกปรกพวกนั้น”
จนถึงตอนนี้ภาพยนตร์เรื่อง “อเมริกัน สไนเปอร์” กวาดรายได้แล้วกว่า 320 ล้านดอลลาร์ จนกลายเป็นภาพยนตร์สงครามที่มีรายได้สูงสุดในประวัตศาสตร์