เอเอฟพี - องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ออกรายงานสนับสนุนการนำอากาศยานไร้คนขับ หรือ “โดรน” เข้ามาใช้ในภารกิจรักษาสันติภาพ ในฐานะเทคโนโลยีใหม่ซึ่งจะช่วยให้ยูเอ็นสามารถรับมือวิกฤตการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ภารกิจรักษาสันติภาพในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ซึ่งถือเป็นกองกำลังรักษาสันติภาพขนาดใหญ่ที่สุดของยูเอ็น เริ่มใช้โดรนสอดแนมสังเกตการณ์ความเคลื่อนไหวของกลุ่มกบฏในภาคตะวันออกมาระยะหนึ่งแล้ว
“นี่คือเทคโนโลยีที่มีความจำเป็นสำหรับปฏิบัติการภาคพื้นดิน ไม่ว่าภารกิจใดๆ ก็ควรจะมีใช้” เจน ฮอตเต ลูเล หัวหน้าคณะผู้เชี่ยวชาญ 5 คนซึ่งเรียบเรียงรายงานเกี่ยวกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ใช้ในภารกิจรักษาสันติภาพของยูเอ็น ระบุ
รายงานฉบับนี้เสนอให้มีการจัดตั้งหน่วยปฏิบัติภารกิจพิเศษทางเทคนิค ซึ่งจะสามารถส่งภาพถ่ายดาวเทียมหรือข้อมูลแบบเรียล-ไทม์ให้แก่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ในกรณีที่เกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน
“คณะมนตรีไม่ควรจะพลาดข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ต่างๆ ซึ่งเราคาดหวังให้พวกเขาต้องทำหน้าที่ตัดสินใจ... เทคโนโลยีเหล่านี้มีประสิทธิภาพสูง และเราเชื่อว่าควรจะนำไปประกอบการวินิจฉัยของคณะมนตรีด้วย”
อย่างไรก็ตาม ข้อแนะนำเช่นนี้อาจต้องถกเถียงกันอีกยาว เพราะถ้าคณะมนตรีความมั่นคงเห็นชอบก็จะต้องยินยอมให้นำเข้าไปใช้กับบางประเทศ ซึ่งยังถือว่าคำสั่งต่างๆ ของยูเอ็นเป็นการก้าวก่ายกิจการภายใน
คณะผู้เชี่ยวชาญพบว่า ภารกิจรักษาสันติภาพของยูเอ็นยังขาดแคลนทรัพยากรที่จำเป็นอีกมาก แม้แต่ชุดหูฟังขั้นพื้นฐานเพื่อการสื่อสารสำหรับทหารก็ยังมีไม่เพียงพอ
รายงานฉบับนี้ยังเสนอให้ตั้งกลุ่มประเทศผู้จัดหาเทคโนโลยี ซึ่งจะสามารถส่งโดรน อุปกรณ์สื่อสาร และเครื่องมืออันสมัยอื่นๆ เข้าไปสนับสนุนภารกิจรักษาสันติภาพ
รายงานความยาว 144 หน้าได้รับการเผยแพร่ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสวัสดิภาพของทหารที่ถูกส่งเข้าไปช่วยรักษาสันติภาพในหลายๆ ประเทศที่เป็นศูนย์กลางความขัดแย้ง
