รอยเตอร์ - แถบมิดเวสต์ของสหัฐฯ ต้องเผชิญอาการหนาวถึงกระดูก โดยเฉพาะที่ชิคาโกซึ่งอุณหภูมิแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในวันพฤหัสบดี (19 ก.พ.) จนต้องสั่งปิดโรงเรียน ขณะที่มันค่อยๆ คืบคลานไปทางทิศตะวันออก มุ่งหน้าไปยังบอสตัน และนิวยอร์กที่ประสบกับสภาพอากาศเย็นยะเยือกอยู่ก่อนแล้ว
คาดหมายว่ามลอากาศเย็นจากอาร์กติกจะปกคลุมแถบตอนกลางของสหรัฐฯไปจนถึงเข้าวันศุกร์ (20 ก.พ.) หนึ่งวันหลังจากวัดอุณหภูมิในชิคาโก ได้ -22 องศาเซลเซียส ทุบสถิติต่ำสุดตลอดกาล -7 องศาเซลเซียส ในปี 1936 ลงอย่างราบคาบ บ็อบ โอราเวค นักอุตุนิยมวิทยาจากสำนักงานพยากรณ์แห่งชาติสหรัฐฯ กล่าว พร้อมเผยว่าแต่ด้วยแรงปะทะของลมทำให้อุณหภูมิในชิคาโกรู้สึกเหมือน -25 องศาเซลเซียส
สภาพอากาศอันเลวร้ายนี้ ส่งผลให้เหล่าโรงเรียนรัฐบาลในชิคาโกซึ่งมีนักเรียนรวมกว่า 396,000 คน นับเป็นเขตการศึกษาใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของสหรัฐฯ จำเป็นต้องยกเลิกการเรียนการสอนในวันพฤหัสบดี (19 ก.พ.) ขณะที่ประชาชนสัญจรอย่างยากลำบากมองไม่ค่อยเห็นทาง เนื่องจากต้องใช้ผ้าคลุมหน้าป้องกันความหนาวเหน็บ
โอราเวคกล่าวว่า ด้วยอากาศอันหนาวเหน็บมุ่งหน้าไปทางตะวันออก นั่นหมายความว่ามันจะสร้างปัญหาแก่ประชาชนที่ต้องออกเดินทางในตอนเช้าวันศุกร์ (20 ก.พ.) ไล่ตั้งแต่บอสตัน ไปจนถึงริชมอนด์ ในเวอร์จิเนีย และคาดหมายว่าอุณหภูมิจะลดต่ำลงไปอีก
ด้วยสภาพอากาศหนาวเหน็บในวอชิงตัน ดี.ซี. ที่พยากรณ์ว่าอุณหภูมิอาจดำดิ่งถึง -19 องศาเซลเซียสเมื่อคืนวันพุธ (18 ก.พ.) โรงเรียนและหน่วยงานราชการท้องถิ่นทั่วภูมิภาคต้องปิดทำการ หรือไม่ก็เปิดทำการสายกว่าปกติในวันพฤหัสบดี (19 ก.พ.)
อุณหภูมิที่ลดต่ำในนิวยอร์กสัปดาห์นี้ หนาวเหน็บเพียงพอที่จะแปรสภาพน้ำตกไนแองการากลายเป็นน้ำแข็ง สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่บรรดานักท่องเที่ยว