เอเอฟพี - “มาลาลา ยูซาฟไซ” เด็กสาวนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิทางการศึกษาของเยาวชนชาวปากีสถาน ผู้เป็นเจ้าของรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ ออกโรงเรียกร้องให้คนทั่วโลกร่วมช่วยเหลือนักเรียนชาวหญิงชาวไนจีเรียกว่า 200 คน ที่ถูกกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ “โบโกฮารัม” ลักพาตัวไป ในวาระครบรอบ 300 วันที่เด็กสาวกลุ่มนี้ถูกจับเป็นตัวประกัน
“ขณะที่เรากำลังรำลึกวาระครบรอบ 300 วันที่นักเรียนหญิงชาวไนจีเรียกว่า 200 คนถูกลักพาตัว หนูขอวิงวอนให้คนทั่วโลกร่วมมือกับหนู เรียกร้องให้มีการช่วยเหลือฮีโรหญิงเหล่านี้ในทันที” เธอประกาศ
ทั้งนี้ กลุ่มกบฏโบโกฮารัมได้ลักพาตัวเด็กมัธยม 276 คนไปจากโรงเรียนสตรีของรัฐบาลในเมืองชิบอก รัฐบอร์โน ทางตะวันออกเฉียงเหนือของไนจีเรีย เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 14 เมษายนปีที่แล้ว
เด็กนักเรียน 57 คนสามารถหลบหนีออกมาได้สำเร็จ ในขณะที่อีก 219 คนยังคงถูกจับตัวเอาไว้ และแม้ว่ากองทัพไนจีเรียจะบอกว่าทราบว่าเด็กสาวกลุ่มนี้ถูกจับตัวไว้ที่ใด แต่สถานการณ์ก็สุ่มเสี่ยงเกินกว่าจะสามารถดำเนินปฏิบัติการช่วยชีวิตพวกเธอได้
การลักพาตัวเด็กสาว รวมทั้งการที่ อาบูบาการ์ เชาเกา ผู้นำสูงสุดของกลุ่มกบฏโบโกฮารัม ออกมาอวดอ้างว่า ได้บีบให้นักเรียนกลุ่มนี้หันไปนับถือศาสนาอิสลาม หรือบังคับให้พวกเธอแต่งงานกับสมาชิกกลุ่มติดอาวุธแล้ว ได้จุดประกายให้เกิดกระแสแค้นเคืองไปทั่วโลก
การติดแฮชแท็ก #BringBackOurGirls ได้กลายเป็นวิธีการรณรงค์ที่ได้รับความนิยมทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยมีบุคคลสำคัญมากมาย รวมทั้ง มิเชล โอบามา สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯ ร่วมกันทวีตข้อความสนับสนุนการเรียกร้องให้ช่วยเหลือเหยื่อลักพาตัวพร้อมแนบแฮชแท็กดังกล่าวเพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ตลอดจนจัดการประท้วงตามท้องถนนไปทั่วโลก
เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว มาลาลา สาวน้อยวัย 17 ซึ่งรอดชีวิตจากการถูกกลุ่มตอลิบานยิงศีรษะ เนื่องจากไม่พอใจที่เธอประกาศตัวสนับสนุนให้เด็กผู้หญิงได้เรียนหนังสือเท่าเทียมกับเด็กชาย ได้เดินทางไปยังไนจีเรีย เพื่อวิงวอนให้ประธานาธิบดี กูดลัค โจนาธาน ดำเนินการเพื่อช่วยเหลือเด็กสาวที่ถูกจับตัวไปตัวทั้งหมด
โจนาธาน ถูกรุมวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่า ไม่มีความกระตือรือร้นในการตอบสนองวิกฤตจับตัวประกัน ทั้งยังไม่สามารถยับยั้งการเคลื่อนไหวก่อกบฏที่ยืดเยื้อมานานถึง 6 ปี
วันนี้ (8) มาลาลาระบุว่า รัฐบาลไนจีเรีย และประชาคมนานาชาติ “สามารถทำอะไรได้อีกหลายอย่างเพื่อแก้ไขวิกฤตครั้งนี้ และเปลี่ยนวิธีการตอบสนองอันอ่อนแอให้ทันต่อสถานการณ์”
“หากเด็กสาวกลุ่มนี้เป็นลูกหลานของผู้มีอิทธิพลทางการเมือง หรือมหาเศรษฐี ก็คงมีความพยายามช่วยชีวิตพวกเธอมากกว่านี้” นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิเด็กผู้นี้ระบุในการแถลง
“แต่พวกเธอเป็นเด็กที่เกิดในเขตยากจนทางตะวันออกเฉียงเหนือของไนจีเรีย และสิ่งที่น่าเศร้าก็คือ นับตั้งแต่ที่พวกเธอถูกลักพาตัวไปก็แทบไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย”
ทั้งนี้ ไนจีเรียได้เลื่อนกำหนดการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาจากวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ ไปเป็นวันที่ 28 มีนาคม เนื่องจากกลุ่มโบโกฮารัมยังคงก่อเหตุโจมตีไม่ลดละ ทางการจึงเป็นห่วงความปลอดภัยของประชาชนที่เดินทางไปใช้สิทธิออกเสียง
มาลาลาระบุว่า นักการเมืองที่สามารถคว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งครั้งนี้ ควรจะให้คำมั่นว่า ภารกิจสำคัญของพวกเขาคือการช่วยชีวิตเด็กสาวชาวเมืองชิบอกกลุ่มนี้ รวมทั้งให้การศึกษาแก่เด็กๆ ชาวไนจีเรียทุกคน ภายใน 100 วันแรกที่ก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่ง
