เอเอฟพี/รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 34 คน และได้รับบาดเจ็บอีกไม่ต่ำกว่า 50 คน หลังเกิดเหตุระเบิด 3 ระลอกในกรุงแบกแดด เมืองหลวงของอิรักในวันเสาร์ (7 ก.พ.) ถือเป็นการเกิดเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่รัฐบาลอิรักจะยกเลิกมาตรการเคอร์ฟิว ที่ห้ามชาวกรุงแบกแดดออกนอกเคหสถานในยามวิกาลที่บังคับใช้มายาวนาน
รายงานข่าวระบุว่า เหตุระเบิดครั้งแรกเป็นการโจมตีโดยมือระเบิดฆ่าตัวตายรายหนึ่งภายในร้านอาหาร ที่ตั้งอยู่ในเขตที่อยู่ของชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 22 คนในจุดนี้
ส่วนการโจมตีครั้งที่ 2 ถูกระบุว่า เกิดจากระเบิด 2 ลูกในตลาดแห่งหนึ่งที่เขตชาร์กาของกรุงแบกแดด ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 10 ราย ขณะที่การโจมตีครั้งที่ 3 เป็นเหตุระเบิดที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตอีก 2 รายที่ย่านอาบู เชียร์ในเขตดูรา
หลังเกิดการโจมตีทั้ง 3 ระลอก โฆษกกระทรวงมหาดไทยอิรักออกคำแถลงแสดงความเชื่อมั่นว่า เหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับการประกาศยกเลิกมาตรการเคอร์ฟิวแต่อย่างใด
ทั้งนี้ เมื่อวันพฤหัสบดี (5 ก.พ.) นายกรัฐมนตรีไฮเดอร์ อัล-อบาดี ผู้นำรัฐบาลอิรัก สั่งให้ยกเลิกเคอร์ฟิวที่บังคับใช้ในกรุงแบกแดดมานานหลายปีในวันเสาร์ (7) ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายด้านความมั่นคงครั้งสำคัญที่สุดในรอบมากกว่าทศวรรษของรัฐบาลแบกแดด