เอเอฟพี - ผู้ประท้วงฝ่ายต่อต้านรัฐบาลปาระเบิดเพลิงเข้าใส่รถบัสคนหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าผู้โดยสารที่กำลังนอนหลับทางภาคตะวันออกของบังกลาเทศเมื่อวันอังคาร (3 ก.พ.) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 ราย ในระลอกคลื่นแห่งความไม่สงบทางการเมืองที่มีเป้าหมายโค่นล้มนายกรัฐมนตรีชีค ฮาซินา
นอกจากผู้เสียชีวิตเบื้องต้นแล้ว ยังมีผู้โดยสารอีกหลายคนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสในเหตุโจมตีที่เมืองชาอุดดากรัม ซึ่งทางการกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของพวกนักเคลื่อนไหวจากพรรคชาตินิยมบังกลาเทศ (บีเอ็นพี) ที่นำโดยอดีตนายกรัฐมนตรี 2 สมัย อย่างนางคาเลดา เซีย
“ผู้โดยสาร 7 คนถูกไฟคลอกตายในรถบัส หลังถูกปาด้วยระเบิดเพลิงตอนเวลา 04.00 น.” ผู้บัญชาการตำรวจท้องถิ่นให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีทางโทรศัพท์ “ยังมีผู้โดยสารอีก 5 คนที่อาการเป็นตายเท่ากัน เนื่องจากร่างกายของพวกเขาถูกเผาไหม้ราว 40-80 เปอร์เซ็นต์ ตอนนี้พวกเขาถูกเคลื่อนย้ายไปยังโรงพยาบาลในเมืองหลวงแล้ว” เขากล่าว “มันเป็นฝีมือของพวกฆาตกรและเรากำลังไล่ล่าพวกผู้ก่อเหตุ”
ในวันอังคาร (3 ก.พ.) เช่นกัน มีผู้เสียชีวิต 1 รายในสภาพร่างผู้ไฟเผาไหม้ จากเหตุโจมตีรถตู้คันหนึ่งในเมืองหลวง ทั้งนี้ 2 เหตุการณ์ข้างต้น ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตในเหตุการประท้วงรุนแรงที่ยืดเยื้อมานานนับเดือนเพิ่มเป็น 54 ศพ ด้วยเหยื่อส่วนใหญ่เสียชีวิตเพราะถูกเล่นงานด้วยระเบิดเพลิงโจมตีรถบัสโดยสารและรถบรรทุก ท่ามกลางความพยายามปิดกั้นการขนส่งของเหล่านักเคลื่อนไหวฝ่ายต่อต้านรัฐบาล
รัฐบาลพยายามระงับความรุนแรงด้วยการกักบริเวณนางเซีย วัย 69 ปีในสำนักงานของตนเองนับตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม แต่ระหว่างที่ถูกกักบริเวณ เธอเรียกร้องให้เหล่าผู้สนับสนุนปิดกั้นท้องถนน ทางรถไฟและเส้นทางน้ำทั่วประเทศ เพื่อกดดันให้นายฮาซินา จัดเลือกตั้งใหม่ หลังจากพรรคบีเอ็นพีและพันธมิตร คว่ำบาตรการเลือกตั้งหนล่าสุดเมื่อเดือนมกราคม 2014 โดยอ้างเชื่อว่ามีการโกงกันอย่างมโหฬาร
ในความพยายามกดดันนางเซียและระงับเหตุรุนแรง เจ้าหน้าที่เมื่อวันจันทร์ (2 ก.พ.) ได้สั่งสืบสวนข้อกล่าวหาฆาตกรรมต่อนางเซีย เกี่ยวเนื่องกับเหตุประท้วงนองเลือด ขณะที่เจ้าพ่อสื่อสารมวลชนซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ช่วยคนสนิทของเธอก็ถูกควบคุมตัว
สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่า นับตั้งแต่การประท้วงเริ่มต้นขึ้น มีผู้ได้รับบาดเจ็บแล้วหลายร้อยคน ยานพาหนะมากกว่า 850 คันถูกทำลายหรือไม่ก็ได้รับความเสียหาย ขณะที่การบริการด้านการขนส่งระหว่างเมืองจำเป็นต้องถูกระงับ
ทั้งนี้ กองกำลังด้านความมั่นคงดำเนินการปราบปรามฝ่ายต่อค้านทั่วประเทศ ทว่าแม้จะจับกุมเหล่าผู้สนับสนุนฝ่ายค้านไปแล้วมากกว่า 10,000 คน แต่เหตุความไม่สงบก็ดูจะไม่บรรเทาลง
ส่วนนางเซียปฏิเสธว่าพรรคบีเอ็นพีของเธอและพันธมิตรอิสลามิสต์ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุปาระเบิดทั้งหลาย พร้อมเรียกร้องขอให้ปล่อยตัวเจ้าหน้าที่และแกนนำที่ถูกควบคุมตัว ทั้งนี้เพื่อกดดันให้ได้มาตามความประสงค์ พรรคของเธอประกาศนัดหยุดงานประท้วง 3 วัน ซึ่งสิ้นสุดในวันอังคาร (3 ก.พ.) อย่างไรก็ตาม ล่าสุดได้มีการขยายเวลาออกไปจนถึงวันพฤหัสบดี (5 ก.พ.)
เหล่าชาติตะวันตกในนั้นรวมถึงอียู เรียกร้องรัฐบาลของฮาซินาและฝ่ายค้าน เปิดเจรจากันเพื่อคลี่คลายวิกฤตครั้งนี้