เอเอฟพี – สตรีชาวอินเดียที่กล่าวหาคนขับแท็กซี่อูเบอร์ (Uber) รายหนึ่งว่าข่มขืนเธอในเมืองหลวงของอินเดียได้ยื่นฟ้องบริษัทให้บริการแท็กซี่ออนไลน์เจ้านี้ในศาลสหรัฐฯ โดยกล่าวหาว่าบริษัทนี้ไม่สามารถรักรองความปลอดภัยให้กับผู้โดยสารได้
ในคำฟ้องของเธอ สตรีชาวอินเดียรายนี้กล่าวหาว่าอูเบอร์ (Uber) ให้ความสำคัญกับผลกำไรมากกว่าความปลอดภัย และเรียกบริษัทที่มีฐานอยู่ในสหรัฐฯแห่งนี้ว่าไม่ต่างกับ “การโบกรถริมทาง (hitchhiking) แบบอิเล็กทรอนิคยุคใหม่”
ในอีเมลล์ถึงเอเอฟพีเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (29) ทนายชาวอเมริกันของสตรีวัย 25 ปีรายนี้ ซึ่งไม่อาจระบุชื่อในที่นี่ได้ด้วยเหตุผลทางกฎหมาย กล่าวว่า อูเบอร์ กำลังถูกยื่นฟ้องเรียก “ค่าเสียหายทางร่างกายและจิตใจ” โดยไม่ระบุจำนวนเงิน
ดักลาส เอช.วิกดอร์ ทนายความของสตรีรายนี้ ก่อนหน้าที่เคยว่าความให้กับแม่บ้านโรงแรมรายหนึ่ง ซึ่งกล่าวหา โดมินิก สเตราส์-คาห์น อดีตผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ว่าข่มขืนเธอในปี 2012
บริษัทซึ่งมีฐานอยู่ที่ซานฟรานซิสโกแห่งนี้ไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อคำฟ้องดังกล่าว แต่ระบุว่า “เรายังคงมีความเห็นใจอย่างสุดซึ้งต่อเหยื่อของอาญากรรมสะเทือนขวัญรายนี้”
โฆษกหญิง กล่าวว่า ทางบริษัทก็กำลัง “ร่วมมืออย่างเต็มที่” กับทางการเพื่อทำให้แน่ใจว่าบุคคลผู้ต้องรับผิดชอบกับอาชญากรรมนี้จะถูกนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
อูเบอร์ ถูกสั่งห้ามไม่ให้ให้บริการบนท้องถนนของเดลี โดยเป็นผลมาจากเหตุข่มขืนสตรีรายนี้เมื่อวันที่ 5 ธันวาคมปีที่แล้ว ซึ่งกระตุ้นให้เกิดความกังวลในเรื่องปลอดภัยขึ้นมาอีกครั้งในเมืองที่มีสถิติความรุนแรงทางเพศสูงแห่งนี้
การพิจารณาโทษคนขับรายดังกล่าว ที่ถูกกล่าวหาว่าทำร้ายสตรีรายนี้ขณะที่เธออยู่ระหว่างเส้นทางกลับบ้านหลังรับประทานมื้อเย็น กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการ โดยเขาปฏิเสธรับทั้งข้อกล่าวหาข่มขืน , ลักพาตัว , และข่มขู่ทางอาญา
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อูเบอร์ ซึ่งเชื่อมโยงผู้โดยสารกับคนขับผ่านทางแอพฯสมาร์ทโฟน กล่าวว่า กำลังริเริ่มกิจการของบริษัทในเดลีขึ้นใหม่อีกครั้ง แต่ทางการปฏิเสธคำขอลงทะเบียนเพื่อดำเนินกิจการในฐานะบริษัทแท็กซี่วิทยุ
อูเบอร์ เคยกล่าวว่า ทางบริษัทมีเจตนารมณ์ที่จะปกป้องผู้โดยสายในแดนภารตะและทั่วโลก
อินเดียคือหนึ่งในตลาดนอกสหรัฐฯ ที่สำคัญของบริษัทนี้ ซึ่งดำเนินกิจการอยู่ในเมืองต่างๆ ของแดนภารตะเกือบ 12 เมือง