เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ แห่งญี่ปุ่นวันนี้ (28 ม.ค.) กล่าวประณามกลุ่มหัวรุนแรงอิสลามิสต์ว่า “ชั่วช้าสามานย์ที่สุด” ภายหลังนักรบญิฮาดกลุ่มนี้ขู่สังหารทั้งตัวประกันชาวญี่ปุ่น และนักบินจอร์แดน หากรัฐบาลจอร์แดนไม่ปล่อยตัวมือระเบิดฆ่าตัวตายชาวอิรักคนหนึ่ง
นาฬิกากำลังนับถอยหลังสู่เส้นตาย 24 ชั่วโมง ที่กลุ่มหัวรุนแรง “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ยื่นคำขาดไว้ทางคลิปวิดีโอล่าสุดว่าจะสังหาร เคนจิ โกโตะ ผู้สื่อข่าวอิสระชาวญี่ปุ่น และมาอัซ อัล-คัสซาสเบห์ นักบินชาวจอร์แดน หากข้อเรียกร้องของพวกเขาไม่ได้รับการตอบรับ
นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “เป็นการกระทำที่ชั่วช้าสามานย์ที่สุด จนผมตกตะลึง ผมได้สั่งการให้รัฐมนตรีทุกกระทรวงร่วมกันหาทางช่วยชีวิตเคนจิ โกโตะ โดยเร็ว”
ก่อนหน้านี้ อาเบะกล่าวกับบรรดารัฐมนตรีญี่ปุ่นว่า “ในสถานการณ์อันตรายร้ายแรงเช่นนี้ รัฐบาล (ญี่ปุ่น) กำลังขอความร่วมมือจากรัฐบาลจอร์แดน เพื่อช่วยเหลือนายโกโตะ และนโยบายนี้ก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง”
โตเกียวได้วอนขอความช่วยเหลือจากจอร์แดน นับตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อกลุ่มไอเอส แพร่คลิปวิดีโอขู่สังหารฮารูนะ ยูกาวะ ชายชาวญี่ปุ่นที่ถูกลักพาตัวไปขณะอยู่ที่ซีเรีย ตั้งแต่เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว
ภายหลังที่ กลุ่มไอเอสประกาศเรียกค่าไถ่ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อแลกกับอิสรภาพของชายชาวญี่ปุ่น 2 คนนี้ กลุ่มติดอาวุธซึ่งยึดครองพื้นที่อันกว้างขวางในอิรักและซีเรีย พร้อมประกาศสถาปนาการปกครองแบบกาหลิบอิสลาม ก็เปลี่ยนไปเรียกร้องให้จอร์แดนปล่อยตัว ซาจิดา อัล-ริชาวี มือระเบิดฆ่าตัวตายหญิง ที่ถูกศาลจอร์แดนพิพากษาประหารชีวิตนับตั้งแต่ปี 2006
เหล่านักวิเคราะห์กล่าวว่า การเปลี่ยนข้อเรียกร้องจากเงินเป็นมือระเบิดหญิง มีเป้าหมายเพื่อสร้างความแตกแยกให้กลุ่มชาติพันธมิตรภายใต้การนำของสหรัฐฯ ที่ผนึกกำลังปราบปรามกลุ่มหัวรุนแรงไอเอสในภูมิภาคตะวันออกกลาง
พวกเขาชี้ว่า กลุ่มไอเอสกำลังบีบให้จอร์แดน ซึ่งเป็นประเทศมุสลิมสายกลาง พยายามรักษาสมดุลระหว่างเสียงเรียกร้องให้ช่วยนักบินชาวจอร์แดน จากประชาชนในประเทศ ทั้งยังต้องประคับประคองสายสัมพันธ์กับชาติพันธมิตรฐานะล่ำซำอย่างญี่ปุ่น
สำหรับ คัสซาเบห์ ถูกกลุ่มไอเอสจับตัวไปเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ภายหลังเครื่องบินขับไล่ F-16 ของเขาตกทางตอนเหนือขอของซีเรีย ขณะดำเนินปฏิบัติการโจมตีกลุ่มนักรบญิฮาดไอเอส ทางอากาศ
นักข่าวสงคราม ที่สื่อญี่ปุ่นยอมรับ
คลิปวิดีโอที่เผยแพร่เมื่อล่าสุดนี้ เผยให้เห็น โกโตะ ผู้สื่อข่าวสงครามที่ได้รับการยอมรับจากสถานีโทรทัศน์ของญี่ปุ่น กำลังถือภาพของคัสซาเบห์ พร้อมเสียงบรรยายที่ทางการญี่ปุ่นเชื่อว่าน่าจะเป็นเสียงของตัวประกันชาวญี่ปุ่นระบุว่า จอร์แดนกำลังขัดขวางไม่ให้เขาได้รับการปล่อยตัว
เสียงดังกล่าวยังระบุต่อไปว่า ตัวประกันทั้งสองจะถูกสังหารภายใน 24 ชั่วโมง หากริชาวีไม่ได้รับอิสรภาพ ทั้งยังเรียกร้องให้รัฐบาลแดนอาทิตย์อุทัยเร่งกดดันจอร์แดนอีกแรง
ไม่นานนักหลังกลุ่มนักรบญิฮาดหัวรุนแรงแพร่คลิปวิดีโอนี้ จุนโกะ อิชิโด แม่ของโกโตะกล่าวว่า “ดิฉันคิดว่ารัฐบาลควรทำทุกทางที่สามารถทำได้”
“เคนจิไม่ได้ตั้งตนเป็นศัตรูกับกลุ่มรัฐอิสลามเลย เขาถูกกลุ่มรัฐอิสลามจับตัวเพราะเป็นห่วง ยูกาวะ เพื่อนของเขาอย่างรุนแรง” เธอระบุกับสื่อญี่ปุ่น
คัตสึโนบุ คาโตะ รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นชี้ว่า รัฐบาลปักใจเชื่อว่าคลิปวิดีโอดังกล่าวเป็นของจริง
เมื่อถามว่า เส้นตาย 24 ชั่วโมงจะสิ้นสุดลงเมื่อใด เขาบอกผู้สื่อข่าวว่า “รัฐบาลของเรารับทราบเรื่องนี้เมื่อเวลา 23.00 น. ของวันอังคาร (27) ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับ 21.00 น. ของวานนี้ (27) ที่เมืองไทย)
วานนี้ (27) ดูเหมือนว่าโตเกียวกำลังเตรียมการเพื่อช่วยเหลือตัวประกันทั้งสองคน
ยาสุฮิเดะ นากายามะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวในกรุงอัมมานว่า “ทั้งสองประเทศกำลังร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด เพื่อพาตัวประกันทั้งสองคนกลับประเทศ”
โตเกียวระบุว่า สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์แห่งจอร์แดน ทรงให้คำมั่นว่าจะร่วมมือกับญี่ปุ่น ระหว่างทรงหารือกับนากายามะ ในประเด็นการช่วยเหลือตัวประกันให้ได้รับการปล่อยตัว”
มีแนวโน้มที่วอชิงตันจะออกมาคัดค้านหากญี่ปุ่นยอมทำตามข้อเรียกร้องขอแลกตัวนักโทษ
ริชาวี ซึ่งเป็นชาวอิรัก ถูกศาลจอร์แดนตัดสินประหารชีวิตเมื่อเดือนกันยายน ปี 2006 ฐานร่วมมือในการก่อเหตุโจมตีโรงแรมในกรุงอัมมานด้วยระเบิดฆ่าตัวตาย เมื่อปี 2005 จนเป็นผลให้มีผู้เสียชีวิต 60 คน โดยเหยื่อส่วนใหญ่เป็นพลเมืองจอร์แดน แต่ที่ริชาวีรอดมาได้ เพราะระเบิดที่เอวของเธอไม่ทำงาน
ก่อนหน้านี้ กลุ่มติดอาวุธไอเอสได้ฆ่าตัดศีรษะผู้สื่อข่าวชาวอเมริกัน 2 คน เจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมชาวอเมริกัน 1 ราย และเจ้าหน้าที่มนุษยธรรมอังกฤษอีก 2 คน ทั้งยังก่อเหตุชั่วร้ายต่างๆ มากมาย รวมทั้งการสังหารหมู่ แต่การเสียชีวิตของยูกาวะนั้นนับเป็นครั้งแรกที่มีพลเมืองญี่ปุ่นถูกกลุ่มไอเอสหมายหัว