รอยเตอร์ – คนร้ายชาวปาเลสไตน์ใช้มีดจ้วงแทงคนขับและผู้โดยสารบนรถเมล์ในกรุงเทลอาวีฟ เมืองหลวงของอิสราเอล จนทำให้มีผู้บาดเจ็บ 10 ราย วันนี้(21) ก่อนที่เจ้าตัวจะถูกเจ้าหน้าที่บ้านเมืองยิงเข้าที่ขาขณะพยายามหลบหนี ตำรวจอิสราเอลเผย
เบนต์ซี เซา ผู้บัญชาการตำรวจกรุงเทลอาวีฟ ระบุว่า เหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้บาดเจ็บรวมทั้งสิ้น 10 คน โดยคนร้ายซึ่งเป็นชาวปาเลสไตน์จากเขตเวสต์แบงก์ได้ใช้อาวุธมีดแทงใส่คนขับรถ จากนั้นจึงหันไปทำร้ายผู้โดยสารคนอื่นๆ
มิคกี โรเซนเฟลด์ โฆษกตำรวจ แถลงว่า หนุ่มปาเลสไตน์วัย 23 ปีคนนี้มีถิ่นพำนักอยู่ที่เมืองตุลการ์ม ในเขตเวสต์แบงก์
แพทย์ประจำโรงพยาบาลอิชิลอฟในกรุงเทลอาวีฟ เปิดเผยผ่านสถานีวิทยุกองทัพอิสราเอลว่า มีผู้บาดเจ็บหลายรายถูกส่งเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล และมี 4 รายที่อาการสาหัส
“หลังจากขึ้นไปบนรถไม่นานนัก คนร้ายก็ตรงเข้าไปใช้มีดแทงพนักงานขับรถหลายครั้ง แต่ผู้เสียหายก็พยายามป้องกันตนเองเต็มที่จนคนร้ายทำอะไรไม่ถูก” เซา แถลงต่อสื่อมวลชน พร้อมระบุว่า ขณะนั้นมีเจ้าหน้าที่เรือนจำกลุ่มหนึ่งขับรถผ่านมาใกล้ๆ และสังเกตเห็นว่ามีเหตุวุ่นวายเกิดขึ้นบนรถเมล์ จึงขับรถไล่ตามและยิงถูกขาของคนร้ายที่กำลังหลบหนี
กรณีนี้ถือเป็นเหตุการณ์โจมตีล่าสุดที่เกิดขึ้นในรอบไม่กี่เดือน ท่ามกลางความบาดหมางระหว่างชาวยิวและปาเลสไตน์ที่เริ่มปะทุรุนแรง โดยเฉพาะในเขตเวสต์แบงก์และเยรูซาเล็มฝั่งตะวันออก
/center>