เอเอฟพี - เนปาลเดือดทั้งในและนอกสภาเมื่อวันอังคาร(20ม.ค.) โดยส.ส.เปิดฉากตะลุมบอนพร้อมทั้งทุ่มเก้าอี้จนเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ส่วนด้านนอกผู้ชุมนุมก่อจลาจลย่อมๆจุดไฟเผารถบัส รถจักรยานยนต์และรถแท็กซี่ ท่ามกลางความตึงเครียดที่พุ่งสูงก่อนเส้นตายที่ต้องเห็นชอบรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
พรรคอมมิวนิสต์เนปาล พรรคฝ่ายค้านนิยมลัทธิเหมา พยายามขัดขวางร่างรัฐธรรมนูญใหม่ที่ผลักดันโดยรัฐบาลผสม ไม่ให้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา ก่อนถึงกำหนดเส้นตายในวันพฤหัสบดี(22ม.ค.) โดยพวกเขาอ้างว่าควรต้องเดินหน้าอภิปรายกันต่อไปจนกว่าข้อตกลงสุดท้ายจะบรรลุ แม้นั่นหมายความว่ามันจะพลาดเส้นตายที่ต้องเห็นชอบก็ตาม
แม้จะมีการอภิปรายกันอย่างยืดยาว แต่เหล่าสมาชิกรัฐสภาก็ล้มเหลวบรรลุข้อตกลงร่างรัฐธรรมนูญใหม่และได้รับคาดหมายว่าจะพลาดเส้นตายในวันพฤหัสบดี(22ม.ค.) ซ้ำเติมความผิดหวังต่อกระบวนการทางการเมืองในประเทศแห่งนี้
ทั้งสองฝ่ายมีความเห็นต่างในประเด็นสำคัญๆ โดยฝ่ายค้านเรียกร้องจัดตั้งจังหวัดใหม่ที่เอื้ออำนวยต่อชุมชนต่างๆที่ไม่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างเช่นชนชั้นดาลิตและชนกลุ่มน้อยชาวมะเทสี แต่พรรคอื่นๆบอกว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะก่อเป็นการแบ่งแยกและเป็นภัยคุกคามต่อความเป็นอันหนึ่งเดียวของประเทศ
ด้วยเหลือเวลาเพียง 2 วัน การประชุมสภาร่างรัฐธรรมนูญจึงยืดเยื้อเข้าสู่ช่วงค่ำ แต่ทางประธานก็จำเป็นต้องระงับศึกอภิปราย หลังจากส.ส.ลัทธิเหมาและส.ส.มะเทสี จับมือกันตะลุมบอนกับนักการเมืองฝ่ายรัฐบาล จนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต้องเข้าระงับเหตุ
ส.ส.รายหนึ่งจากพรรคยูเอ็มแอล พรรคร่วมรัฐบาล เผยว่าส.ส.ร่วมพรรคของ 2 ของคนถูกขว้างด้วยไมโครโฟนและกล่าวโทษพวกส.ส.ลัทธิเหมาต่อเหตุความรุนแรงในรัฐสภาครั้งนี้ทำให้ประธานสภาต้องเลื่อนการประชุมในช่วงบ่ายวันอังคาร(20ม.ค.)ออกไป ขณะที่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 4 คนและส.ส.3วันได้รับบาดเจ็บจากเหตุตะลุมบอน
พรรคร่วมรัฐบาลและพันธมิตรมีเสียงข้างมากเกิน 2 ใน 3 ที่จำเป็นสำหรับเห็นชอบรัฐธรรมนูญใหม่โดยไม่ต้องง้อเสียงสนับสนุนจากพวกลัทธิเหมา แต่พรรคอมมิวนิสต์เนปาลเตือนว่าความขัดแย้งอาจลุกลามบานปลายหากว่าพรรคการเมืองต่างๆล้มเหลวให้ความสำคัญต่อมุมมองของพรรคฝ่ายค้าน
ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากรัฐสภาดำดิ่งสู่ความโกลาหล ตำรวจเข้าจับกุมผู้ประท้วงราว 50 คนที่ก่อเหตุจุดไฟเผารถบัส รถจักรยานยนต์และรถแท็กซี่ ในความพยายามดำเนินการตามคำเรียกร้องของพรรคลัทธิเหมาที่ขอให้มีการร่วมทั่วประเทศเพื่อต่อต้านร่างรัฐธรรมนูญใหม่
บรรดาโรงงาน ร้านค้า โรงเรียน และระบบขนส่งมวลชนทั่วประเทศต่างปิดทำการหรือหยุดให้บริการเพื่อทำให้ประเทศหยุดชะงักตามคำเรียกร้องของกลุ่มนิยมลัทธิเหมา ขณะที่ท้องถนนส่วนใหญ่ในกรุงกาฐมาณฑุที่เคยมีปัญหาจราจรติดขัด กลับโล่งกว่าทุกวันแม้เป็นช่วงชั่วโมงเร่งด่วน เพราะประชาชนส่วนใหญ่ร่วมประท้วงโดยไม่ไปทำงาน ขณะที่ทางการต้องกระจายกำลังตำรวจกว่า 6,000 นายในเมืองหลวงเพื่อรองรับความเป็นไปได้ที่อาจเกิดสถานการณ์รุนแรงใดๆ
ในเขตซัปทารี พวกก่อจลาจลลอบวางเพลิงสำนักงานพรรคยูเอ็มแอล ทำลายเอกสารและเฟอร์นิเจอร์จำนวนหนึ่ง ขณะที่ส.ส.พรรคยูเอ็มแอลรายหนึ่งบอกกับเอเอฟพีว่าทางพรรคกำลังดำเนินการสอบสวน แต่ดูเหมือนว่ามันน่าจะเป็นฝีมือของคนที่เกี่ยวข้องกับการประท้วง