เอเอฟพี - การโจมตีของอากาศยานไร้นักบิน (โดรน) ของสหรัฐฯ ในวันนี้ (19 ม.ค.) ได้สังหารนักรบกลุ่มติดอาวุธ 5 รายในเขตชนเผ่าของปากีสถาน พื้นที่ซึ่งอิสลามาบัดเคยดำเนินปฏิบัติการโจมตีทางทหารเต็มขั้นเมื่อปีที่แล้ว เจ้าหน้าที่ความมั่นคง เผย
การจู่โจมดังกล่าวพุ่งเป้าที่กลุ่มอาคารของกลุ่มตอลิบานในวาซิริสถานเหนือ หนึ่งในเขตกึ่งปกครองตนเองทั้ง 7 แห่งที่มีพนมแดนติดต่อกับอัฟกานิสถาน และพื้นที่ที่เป็นศูนย์กลางของกลุ่มติดอาวุธอัลกออิดะห์และตอลิบานมาตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษที่ 2000
การโจมตีของโดรนโดยสหรัฐฯ หลายครั้งในระยะนี้ได้ก่อให้เกิดการคาดเดาว่า วอชิงตันและอิสลามาบัดอาจกำลังประสานปฏิบัติการทางทหารของพวกเขากันอยู่
อย่างไรก็ตาม ปากีสถานประณามการโจมตีดังกล่าวอย่างเป็นทางการว่าเป็นการละเมิดอำนาจอธิปไตยของพวกเขา
“โดรนสหรัฐฯ ลำหนึ่งยิงขีปนาวุธ 2 ลูกใส่กลุ่มอาคารในย่านซาวัลของเขตซาฮีเคล สังหารผู้ก่อการร้ายไป 5 ราย” เจ้าหน้าที่อาวุโสด้านความมั่นคง บอกกับเอเอฟพีโดยไม่ขอเผยนาม และมีเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงอีกคนหนึ่งยืนยันการโจมตีและจำนวนผู้เสียชีวิตดังกล่าว
พื้นที่นี้ปกติแล้วจะห้ามไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้า ทำให้เป็นการยากที่จะพิสูจน์ยืนยันตัวเลขดังกล่าวและระบุตัวผู้เสียชีวิตอย่างอิสระ
วอชิงตันกดดันอิสลามาบัดมาเป็นเวลาหลายปีให้กวาดล้างแหล่งกบดานของกลุ่มติดอาวุธในวาซิริสถานเหนือ ซึ่งถูกใช้เพื่อดำเนินปฏิบัติการโจมตีใส่กองกำลังนาโต (องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ) ในอัฟกานิสถาน
กองทัพปากีสถานเปิดฉากการจู่โจมครั้งใหญ่ในพื้นที่ดังกล่าวเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว และระบุว่า จนถึงตอนนี้พวกเขาได้สังหารนักรบกลุ่มติดอาวุธไปกว่า 1,800 คนแล้ว ขณะที่ฝ่ายกองทัพสูญเสียทหาร 126 นาย
การโจมตีครั้งล่าสุดนี้มีขึ้นภายหลังปากีสถานยกระดับยุทธศาสตร์ต่อต้านการก่อการร้ายท่ามกลางกระแสจากเหตุโจมตีโรงเรียนแห่งหนึ่งที่ดำเนินการโดยกองทัพในเมืองเปชวาร์เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ซึ่งเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 150 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็กนักเรียน 134 คน
นายกรัฐมนตรี นาวาซ ชารีฟ ของปากีสถานได้ประกาศจัดตั้งศาลทหารสำหรับคดีที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย เพื่อที่จะเร่งการพิจารณาคดีต่างๆ และเขายังสั่งยกเลิกการระงับโทษประหารชีวิตที่ดำเนินมานาน 6 ปี และนำมันกลับมาใช้กับคดีที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย