เอเอฟพี - ผลการชันสูตรศพที่เปิดเผยออกมาวานนี้ (29 ธ.ค.) ชี้ว่า ชายผิวสีที่ถูกตำรวจเมืองลอสแองเจลิสสังหารทั้งที่ไม่ได้พกพาอาวุธ ถูกยิงทั้งหมด 3 นัด โดยในจำนวนนี้มี 1 นัดที่เป็นการจ่อยิงระยะประชิดจากด้านหลัง
การเสียชีวิตของเอเซล ฟอร์ด เมื่อวันที่ 11สิงหาคม คือหนึ่งในเหตุตำรวจสังหารคนดำ ในสหรัฐฯ ซึ่งเกิดขึ้นหลายครั้งในปีนี้ โดยนับเป็นเหตุการณ์ที่จุดชนวนให้เกิดกระแสต่อต้าน และเรียกเสียงวิจารณ์อย่างกว้างขวาง
รายงานผลการชันสูตรศพของสำนักงานนิติพยาธิแพทย์เทศมณฑลลอสแองเจลิสแสดงให้เห็นว่า ฟอร์ด ถูกยิงเข้าที่ด้านหลังหนึ่งนัด ที่แขนหนึ่งนัด และที่ท้องหนึ่งนัด
รอยกดของปากลำกล้องปืนบนบาดแผลทีหลังของฟอร์ด คือสิ่งที่ยืนยันได้ว่า ชายวัย 25 ปีผู้นี้ถูกจ่อยิงในระยะเผาขน
สตีเวน เลอร์แมน ทนายความของครอบครัวฟอร์ดประณามว่า สิ่งที่พบในผลการชันสูตรพลิกศพช่างน่าหวาดกลัว
เลอร์แมนกล่าวกับเอเอฟพีว่า “สิ่งที่พวกเขาทำกับฟอร์ดนั้นไม่ต่างอะไรไปจากอาชญากรรม”
ฟอร์ด ซึ่งมีอาการป่วยทางจิตอย่างเห็นได้ชัด ถูกสังหารขณะเผชิญหน้าตำรวจสายตรวจ 2 นาย คือ ชาร์ลตัน แวมพ์เลอร์ และอันโตนิโอ วิลเลกัส ทางใต้ของลอสแองเจลิส
ขณะเกิดเหตุ ฟอร์ดเดินบนบาทวิถีเพียงลำพัง โดยที่ไม่มีอาวุธติดตัว
ผลการชันสูตรศพไม่ได้บรรยายเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุ แต่กรมตำรวจนครลอสแองเจลิสเผยว่า ก่อนเกิดเรื่องแวมพ์เลอร์ และวิลเลกัส พยายามจะเรียกฟอร์ดมาสอบถาม แต่เขาเดินหนี และ “ซุกมือตนเองเอาไว้”
ตำรวจทั้งสองจึงตามฟอร์ดไป จากนั้นเจ้าหน้าที่ 1 ใน 2 นายก็พยายามจับตัวเขาไว้ แต่ “ฟอร์ดแย่งปืนพกมาจากตำรวจ แล้วพยายามชักปืนออกจากซอง” ถ้อยแถลงของตำรวจลอสแองเจลิสระบุ
“เจ้าหน้าที่ผู้นี้ตะโกนบอกคู่หูว่า ฟอร์ดแย่งปืนไปจากเขา เพื่อนของเขาจึงชักปืนขึ้นมายิงฟอร์ด 2 นัด และแทบจะในนาทีเดียวกัน ตำรวจที่ถูกแย่งปืนไปได้ก็ชักปืนอีกกระบอกที่เหน็บอยู่ข้างหลัง แล้วเข้าประกบฟอร์ดจากด้านหลัง ก่อนจะยิงฟอร์ดในระยะประชิดอีกหนึ่งนัด
อย่างไรก็ตาม สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ครอบครัวของฟอร์ด และผู้เห็นเหตุการณ์ต่างให้การปฏิเสธว่า ฟอร์ดไม่ได้มีท่าทีก้าวร้าว
ผลการชันสูตรศพเผยแพร่ออกมาเพียงไม่นาน หลังคนในชุมชนร้องเรียนว่า กระบวนการสืบสวนของตำรวจไม่มีความโปร่งใส และนายกเทศมนตรี อีริก การ์เซตตี ให้สัญญาว่าจะตีพิมพ์รายงานภายในสิ้นปีนี้
ในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ ผู้ชุมนุมได้ออกมารวมตัวประท้วงกันตามท้องถนนทั่วสหรัฐฯ เพื่อต่อต้านการที่ตำรวจใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุกับคนผิวสีมือเปล่า รวมทั้งประท้วงเหตุตำรวจล็อกคอ อีริก การ์เนอร์ ชายผิวดำในนิวยอร์กจนเสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจ ในเดือนกรกฎาคม และเหตุวิสามัญวัยรุ่นผิวสีวัย ไมเคิล บราวน์ ในเมืองเฟอร์กูสัน มลรัฐมิสซูรี
คณะลูกขุนใหญ่ที่สืบสวนคดีทั้งสองตัดสินใจไม่สั่งฟ้องตำรวจที่เป็นผู้ลั่นไกสังหาร
เอิร์ล โอฟารี ประธานเวทีประชุม “ลอสแองเจลิสเออร์แบนราวนด์เทเบิล” ได้เรียกร้องให้ แจ็คกี เลซีย์ อัยการศาลแขวงลอสแองเจลิส ทบทวนว่า มีทางสั่งฟ้องตำรวจ 2 คนที่ยิงฟอร์ดเสียชีวิตได้หรือไม่