จาการ์ตาโพสต์ - กองทัพเรืออินโดนีเซียได้ทำการระเบิดเรือประมงไทย 2 ลำในวันนี้ (29 ธ.ค.) หลังศาลแดนอิเหนาตัดสินว่าเรือเหล่านั้นกระทำการจับปลาแบบผิดกฎหมายในน่านน้ำของตน บริเวณเกาะอนัมบาส จังหวัดหมู่เกาะริเอา
เจ้าหน้าที่จากหน่วยรบพิเศษของกองทัพเรือได้ทำการติดตั้งระเบิดไว้ในเรือทั้งสองลำ แล้วทำการจุดระเบิดจากระยะไกล บริเวณน่านน้ำใกล้กับทะเลจีนใต้ จากนั้นประมาณ 5 นาที เรือทั้งสองลำก็จมลงสู่ก้นทะเล
เรือประมงไทยที่ชื่อ MV Kour Son 77 ถูกจับได้โดยเรือตรวจการณ์ KRI Sutedi Senoputra ของกองทัพเรืออินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนปีนี้ พร้อมลูกเรือ 6 คน เป็นชาวไทย 2 ราย ชาวพม่า 3 ราย กับชาวลาวอีก 1 ราย ส่วนเรืออีกลำมีชื่อว่า KM G. Chawat 5 ถูกจับโดยเรือตรวจการณ์ KRI Sultan Hasanuddin เมื่อวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา
“ด้วยคำสั่งของประธานาธิบดี ทางกองทัพเรือจะต้องแสดงให้เห็นถึงการปฏิบัติอย่างเข้มงวดตามที่ได้รับมอบหมาย ในการจมเรือที่ทำประมงอย่างผิดกฎหมาย” พล.ร.ต.วิโดโด ผู้บัญชาการกองเรือตะวันตกของกองทัพเรืออินโดนีเซีย กล่าวเมื่อวันอาทิตย์
วิโดโดบอกว่า การจมเรือทั้งสองลำเป็นไปตามขั้นตอนทางกฏหมายของอินโดนีเซีย ซึ่งได้รับการยืนยันคำสั่งแล้วจากคำตัดสินของศาล
“ด้วยการตัดสินคดีที่รวดเร็ว เราหวังว่ามันจะช่วยยับยั้งพวกชาวต่างชาติ ไม่ให้เข้ามาลักลอบจับสัตว์ในดินแดนของเรา” เขากล่าว
นับตั้งแต่ก้าวขึ้นสู่อำนาจในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด หรือ “โจโควี” ของชาวอินโดฯ ก็ได้เปิดศึกกับพวกลักลอบจับสัตว์อย่างจริงจัง
เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม มีเรือของเวียดนาม 3 ลำที่ถูกจัดการแถวๆ อนัมบาส จากนั้นในวันที่ 21 ธันวาคม ก็มีเรือจากปาปัวนิวกินี 2 ลำ ที่ถูกทำลายบริเวณชายฝั่งอัมบอน หมู่เกาะมาลูกู
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีมาตรการจัดการอย่างเข้มงวด แต่ก็ยังมีเสียงวิจารณ์รัฐบาลเกี่ยวกับท่าทีอะลุ่มอล่วยที่มีต่อเรือประมงผิดกฎหมายของจีน เพราะนับตั้งแต่เริ่มเปิดศึกกับพวกลักลอบจับสัตว์ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ยังไม่มีเรือจากจีนลำไหนที่ต้องเจอมาตรการรุนแรงจากรัฐบาลอินโดนีเซียเลย