xs
xsm
sm
md
lg

'โซนี่'กลับใจให้ฉายหนังล้อ'ผู้นำคิม' โอบามาชมแสดงถึง'เสรีภาพมะกัน'

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ - โซนี่ พิคเจอร์ส หักมุมอีกรอบหนึ่ง ประกาศส่ง “ดิ อินเทอร์วิว” ภาพยนตร์ตลกหลุดโลกที่มีการผูกเรื่องราวลอบสังหารผู้นำ คิม จองอึน ของเกาหลีเหนือ ลงโรงตามกำหนดเดิมในช่วงเทศกาลคริสต์มาส แต่จำนวนโรงฉายลดน้อยลง เรียกเสียงชมเชยทันควันจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา ส่วนทางด้านทางการจีนออกมายืนยัน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ระบบอินเทอร์เน็ตเกาหลีเหนือล่มถึง 2 ระลอกใน 2 วัน

เพียง 6 วันหลังมีการยกเลิกการเปิดฉายภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว ซึ่งเรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่า ยินยอมจำนนต่อการข่มขู่กระทั่งสูญเสียเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ล่าสุดเมื่อวันอังคาร (23 ธ.ค.) ไมเคิล ลินตัน ประธานบริหารของโซนี่ พิคเจอร์ส เอนเทอร์เทนเมนต์ แถลงว่า ดิ อินเทอร์วิว จะเข้าฉายในอเมริกาตามกำหนดเดิมในวันพฤหัสบดี (25) นี้ แต่จำนวนโรงฉายจะมีเพียง 200 โรง จากแผนการเดิมประมาณ 3,000 โรง

อย่างไรก็ดี โซนี่บอกว่ามีแผนเพิ่มโรงฉายภาพยนตร์เรื่องนี้ รวมถึงเผยแพร่ในช่องทางอื่นๆ ในอนาคต

โรงภาพยนตร์ในเมืองออสติน มลรัฐเทกซัส และเมืองแอตแลนตา, จอร์เจีย เป็นกลุ่มแรกๆ ที่ยืนยันการฉายดิ อินเทอร์วิว โดยส่วนใหญ่เป็นโรงภาพยนตร์อิสระ และผู้ดำเนินการโรงภาพยนตร์เหล่านี้บางแห่งเผยว่า ได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อป้องกันไว้ก่อน เช่นเดียวกับตำรวจในหลายพื้นที่ที่เตรียมเข้มงวดกวดขันเป็นพิเศษในการดูแลความปลอดภัยโรงภาพยนตร์ที่จะฉายหนังเรื่องนี้

การกลับลำของโซนี่เป็นการหักมุมครั้งล่าสุดในวิกฤตที่จู่โจมเข้าใส่โซนี่ พิคเจอร์ส สตูดิโอชื่อดังแห่งหนึ่งของฮอลลีวู้ด และดิ อินเทอร์วิว ภาพยนตร์ที่ผูกเนื้อเรื่องให้มีนักข่าว 2 คนที่ได้เข้าสัมภาษณ์ คึม จองอึน ถูกซีไอเอไหว้วานให้ลอบสังหารผู้นำโสมแดงผู้

เกาหลีเหนือถูกทางการอเมริกากล่าวหาว่า อยู่เบื้องหลังการโจมตีระบบคอมพิวเตอร์ของโซนี่ และนำอีเมล บทภาพยนตร์ ตลอดจนการสื่อสารภายในอื่นๆ รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับเงินเดือนและประวัติรักษาพยาบาลของพนักงานทั้งเก่าและใหม่ของโซนี่ ออกมาเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต

ด้านเปียงยางแม้ยืนกรานปฏิเสธ แต่ขณะเดียวกัน ก็ยกย่องการกระทำของแฮกเกอร์ที่อ้างความรับผิดชอบการโจมตีโซนี่ ซึ่งเรียกตัวเองว่า “การ์เดียนส์ ออฟ พีซ”

คณะกรรมาธิการกลาโหมแห่งชาติของโสมแดงยังประณามโซนี่ว่า ส่งเสริมการก่อการร้ายและทำลายเกียรติศักดิ์ศรีของผู้นำคิม

สัปดาห์ที่แล้ว โซนี่ได้ประกาศงดการฉายดิ อินเทอร์วิว หลังจากแฮกเกอร์กลุ่มดังกล่าวขู่โจมตีโรงภาพยนตร์ที่ฉายหนังเรื่องนี้ รวมทั้งขู่แฉข้อมูลลับของโซนี่อีกระลอก กระทั่งเชนโรงภาพยนตร์ใหญ่หลายแห่งในอเมริกาบอกกับสตูดิโอยักษ์รายนี้ว่า จะไม่ฉายดิ อินเทอร์วิว

แต่ขณะเดียวกัน การยกเลิกการฉายกลับทำให้โซนี่ถูกบุคคลทั้งในและนอกฮอลลีวู้ดต่อว่าต่อขานว่า ยอมแพ้ต่อการข่มขู่

แม้แต่ประธานาธิบดีโอบามา ที่กล่าวหาเปียงยาง กระทำการ “ทำลายล้างทางไซเบอร์” ต่อโซนี่ ยังวิจารณ์ว่า โซนี่ตัดสินใจพลาด เพราะเท่ากับเป็นการเปิดทางให้ “เผด็จการนอกประเทศสามารถเข้ามาชี้นิ้วบงการถึงในอเมริกา”

ด้วยเหตุนี้ การตัดสินใจล่าสุดของโซนี่จึงได้รับการยกย่องจากประมุขทำเนียบขาวทันที

“ตามที่ประธานาธิบดีประกาศเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว เราเป็นประเทศที่เชื่อมั่นในเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และสิทธิในการแสดงออกผ่านศิลปะ” อิริก ชูลซ์ โฆษกทำเนียบขาวแถลง และกล่าต่อไปว่า การตัดสินใจของโซนี่และโรงภาพยนตร์ที่เข้าร่วม คือการเปิดโอกาสให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวด้วยตนเอง

ขณะเดียวกัน เมื่อคืนวันจันทร์ (22) ระบบอินเทอร์เน็ตในเกาหลีเหนือที่ดำเนินการผ่านเซิร์ฟเวอร์ในจีนทั้งหมด กลายเป็นอัมพาตกว่า 9 ชั่วโมง และจากนั้นก็ล่มอีกครั้งในวันต่อมา ท่ามกลางข่าวลือว่าถูกอเมริกาสั่งสอน เนื่องจากก่อนหน้านี้ โอบามาประกาศ “ตอบโต้อย่างสาสม” ต่อกรณีการเจาะระบบโซนี่

เกี่ยวกับเรื่องนี้ กระทรวงการต่างประเทศจีนได้ออกคำแถลงเมื่อวันอังคาร (23) ว่า ปักกิ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ และระบุว่า ผู้ที่รายงานว่า จีนมีส่วนทำให้ระบบอินเทอร์เน็ตเกาหลีเหนือล่มนั้น ถือเป็นการแพร่ข่าวที่ “ไร้ความรับผิดชอบ”

หวา ชุนอิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ยังเรียกร้องให้อเมริกาและเกาหลีเหนือเปิดอกคุยกันกรณีโซนี่

ทั้งนี้ นอกจากกล่าวหาและข่มขู่ลงโทษเกาหลีเหนือแล้ว วอชิงตันยังขอให้ปักกิ่งช่วยระบุตัวแฮกเกอร์เกาหลีเหนือที่แอบซุ่มก่อการอยู่ในแผ่นดินใหญ่ และหากพบ ก็ขอให้เนรเทศแฮกเกอร์เหล่านั้นกลับประเทศ

me src="//www.facebook.com/plugins/likebox.php?href=https%3A%2F%
กำลังโหลดความคิดเห็น