เอเอฟพี – กระทรวงกลาโหมรัสเซียวันนี้ (14 ธ.ค.) ออกมาบอกปัดรายงานของกองทัพสวีเดนที่ระบุว่า มีอากาศยานโดยสารลำหนึ่งเกือบถูกเครื่องบินทหารของรัสเซียเฉี่ยวชน ขณะบินเหนือสวีเดนในสัปดาห์นี้
แม้ว่ากระทรวงกลาโหมรัสเซียจะไม่ได้ปฏิเสธว่า เครื่องบินของตนไม่ได้อยู่ในบริเวณดังกล่าว ขณะเกิดเหตุการณ์เมื่อวันศุกร์ (12) แต่ก็ชี้ว่า เครื่องบินของมอสโกได้รักษาระยะห่างจากเส้นทางบินของอากาศยานโดยสารมากกว่า 70 กิโลเมตร ซึ่งถือเป็นระยะที่ปลอดภัย
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่ประเทศแถบทะเลบอลติกต่างเป็นกังวลว่า รัสเซียเริ่มแสดงพฤติการณ์ก้าวร้าวรุนแรงมากขึ้น ซึ่งรวมถึง การส่งอากาศยานบินป้วนเปี้ยน หรือรุกล้ำน่านฟ้าของประเทศเพื่อนบ้าน
อิกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกองทัพแดนหมีขาวยืนยันกับสำนักข่าวทาสส์ว่า “เครื่องบินทหารรัสเซียที่บินในเขตน่านฟ้าสากล เหนือทะเลบอลติก เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีใดๆ ในเหตุการณ์ทางการบินที่ว่ามา”
เขาเสริมว่า เครื่องบินของเราอยู่ห่างจาก “เส้นทางบินของเครื่องบินโดยสารที่ทะยานออกจากกรุงโคเปนเฮเกนไปไกลกว่า 70 กิโลเมตร”
อย่างไรก็ดี โฆษกทัพรัสเซียยอมรับว่า เครื่องบินรัสเซียไม่ได้ติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับรับส่งสัญญาณเรดาร์ เพื่อเตือนให้เครื่องบินพาณิชย์รู้ จริงดังที่คำแถลงของกระทรวงกลาโหมสวีเดนว่า
ปีเตอร์ ฮัลท์ควิสท์ รัฐมนตรีกลาโหมสวีเดนกล่าวตำหนิว่า การบินโดยไม่ติดเครื่องรับส่งสัญญาณเรดาร์เป็นการกระทำที่ “ไร้ความรับผิดชอบ”
อย่างไรก็ตาม โฆษกกองทัพรัสเซียโต้กลับว่า เครื่องบินทหารจากชาติสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่บินในน่านฟ้าใกล้พรมแดนรัสเซียก็ “บินโดยปิดเครื่องส่งสัญญาณอยู่เสมอ”
เขาระบุเพิ่มเติมว่า “แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า อุปกรณ์ในส่วนควบคุมน่านฟ้าของรัสเซียจะไม่สามารถระบุตำแหน่งของอากาศยานเหล่านี้ได้”