xs
xsm
sm
md
lg

ศาลอียิปต์ประหารชีวิตรวดเดียว “188 ผู้สนับสนุนมอร์ซี” หลังสังหารตำรวจไอยคุปต์ - อัยการเล็งอุทธรณ์คดี “ฆ่าคนตาย-คอร์รัปชัน”ของมูบารัค

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์/เอเอฟพี - เมื่อวานนี้ (2 ธ.ค.) ศาลอียิปต์ออกคำตัดสินเบื้องต้นประหารชีวิตผู้ประท้วงสนับสนุนอดีตประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด มอร์ซี จำนวน 188 คนในการก่อเหตุบุกโจมตีสถานีตำรวจประจำเคอร์ดาสซา( Kerdassa)นอกกรุงไคโรในปี 2013 และสังหารเจ้าหน้าที่ไปถึง 13 นาย นับเป็นการเสียชีวิตครั้งใหญ่ที่สุดในอียิปต์ และในวันเดียวกันกับที่อัยการสูงสุดอียิปต์ประกาศจะขอยื่นอุทธรณ์คำตัดสินคดีสังหารผู้ประท้วงและคดีคอร์รัปชันของอดีตประธานาธิบดีอียิปต์ ฮอสนี มูบารัค หลังจากในวันเสาร์ (29 พฤศจิกายน) ที่ผ่านมา ศาลอียิปต์มีคำสั่งยกฟ้อง

เดลีเมล์ สื่ออังกฤษ และเอเอฟพี รายงานเมื่อวานนี้ (2) ว่า ศาลอียิปต์ออกคำตัดสินเบื้องต้นประหารชีวิตหมู่ 188 คนในวันอังคาร ท่ามกลางเสียงวิจารณ์จากนานาชาติ

โดยผู้ต้องหาทั้งหมด 188 คนถูกตั้งข้อกล่าวหาสังหารเจ้าหน้าที่ตำรวจอียิปต์จำนวน 13 นายที่สถานีตำรวจประจำเคอร์ดาสซา (Kerdassa) นอกกรุงไคโรในปีที่ผ่านมาซึ่งเมืองนี้ถือเป็นถิ่นอิทธิพลของกลุ่มติดอาวุธ

นอกจากนี้ ผู้ต้องหาทั้งหมดที่ล้วนเป็นกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านการปฎิวัติยึดอำนาจของอดีตประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด มอร์ซี ยังถูกตั้งข้อกล่าวหาพยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจแดนไอยคุปต์ไม่ต่ำกว่า 10 นาย รวมไปถึงทำลายสถานีตำรวจที่เกิดเหตุอันเป็นสถานที่ราชการ จุดไฟเผารถตำรวจ และขโมยอาวุธหนักจากเจ้าหน้าที่

ทั้งนี้ เหตุประท้วงบุกโจมตีสถานีตำรวจเคอร์ดาสซาเกิดขึ้นในวันเดียวกับที่เจ้าหน้าที่ปราบจลาจลอียิปต์ได้เข้าสลายที่ชุมนุม 2แห่งของผู้ประท้วงสนับสนุนมอร์ซี และมีผู้เสียชีวิต 700คนในเหตุการณ์ครั้งนั้น

โดยเอเอฟพีรายงานว่า นับตั้งแต่กองทัพอียิปต์ได้เข้ายึดอำนาจมอร์ซี ทำให้มีผู้สนับสนุนของเขาต้องเสียชีวิตไปแล้วไม่ต่ำกว่า 1,400 คนในการถูกตำรวจใช้กำลังเข้าสลาย รวมไปถึงถูกตัดสินโทษประหารชีวิตอีกจำนวนมากหลังจากนั้นในการใต่สวนดำเนินคดีที่ฉับไวของศาลอียิปต์ ท่ามกลางความเคลือบแคลงจากโลกตะวันตก

อย่างไรก็ตาม คำพิพากษาโทษประหารชีวิต 188 คน ที่มีผู้ต้องหา 143 คนจากทั้งหมดถูกจองจำอยู่ในห้องขังจะต้องได้รับไฟเขียวจากองค์กรศาสนาสูงสุดของอียิปต์ ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจพิจารณาที่เรียกว่า “แกรนด์มัฟตี (Grand Mufti) ก่อน และคาดว่าในวันที่ 24 มกราคม 2015 ศาลอียิปต์จะสามารถออกคำพิพากษาสุดท้ายได้ ซึ่งตามกฎหมายอียิปต์ ผู้ต้องหามีสิทธิ์ยื่นอุทธรณ์คำตัดสินต่อไป

เอเอฟพียังรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากมีคำตัดสินเบื้องต้นออกมา ทำให้องค์การสหประชาชาติด้านสิทธิมนุษยชนได้ออกแถลงการณ์ในวันเดียวกันเรียกร้องว่า อียิปต์ต้องควบคุมหน่วยงานรักษาความปลอดภัยของประเทศ และเริ่มต้นดำเนินการสอบสวนการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นกับผู้ประท้วง

ทั้งนี้ คำตัดสินเบื้องต้นออกมาในวันเดียวกับที่อัยการสูงสุดอียิปต์มีความเห็นที่จะยื่นอุทธรณ์คดีสังหารผู้ประท้วงและคดีคอรัปชันของอดีตประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัคที่เกิดขึ้นในปี 2011

“อัยการสูงสุดอียิปต์ตัดสินใจที่จะขอยืนอุทธรณ์ เพราะคำสั่งนั้นเป็นผลมาจากช่องโหว่ทางกฏหมาย” รายงานจากแถลงการณ์อัยการสูงสุดอียิปต์มีขึ้นหลังจากศาลอียิปต์มีคำตัดสินยกฟ้องทั้งสองข้อกล่าวหาในวันเสาร์ (29 พฤศจิกายน) ซึ่งที่ผ่านมา มูบารัคใช้เวลาในเรือนจำนานถึง 3 ปีในข้อหาอื่น

ในขณะเดียวกัน ทนายความของมูบารัคให้ความเห็นว่า อดีตผู้นำอียิปต์วัย 86 ปีสามารถออกจากโรงพยาบาลกองทัพได้เร็วกว่ากำหนด ซึ่งมูบารัคถูกจำคุกราว 2 ใน3 ของจำนวนที่เขาต้องถูกลงโทษแล้ว ถ้าหากทางผู้มีอำนาจจะนับรวมถึงระยะเวลาการถูกคุมขังตั้งแต่มูบารัคถูกจับกุมในปี 2011

นอกจากนี้ คำพิพากษายกฟ้องของคดีมูบารัคยังทำให้เกิดการประท้วงจากผู้ประท้วงร่วม 1,000 คนบริเวณทางเข้าจัตุรัสตอห์รีร์ (Tahrir) กลางกรุงไคโร และเกิดการปะทะขึ้น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บอีกส่วนหนึ่ง

เมื่อวานนี้ (2) นายกรัฐมนตรีอียิปต์อิบราฮิม มาห์ลาบ ออกแถลงการณ์ประนามการประท้วงว่า “สำหรับกลุ่มคนผู้ซึ่งต้องการโค่นล้มรัฐ และออกประกาศเรียกร้องให้ผู้ประท้วงทำการเข้ายึดสถานที่ต่างๆ นั้น เป็นสิ่งที่รับไม่ได้โดยสิ้นเชิง”

กำลังโหลดความคิดเห็น