เอเจนซีส์ - ชาวเยอรมันวานนี้ (30 พ.ย.) ได้ร่วมกันไว้อาลัยให้แก่ ทูเช อัลไบรัก หญิงสาววัย 23 ปีซึ่งถูกรุมทำร้ายขณะเข้าช่วยเหลือเด็กสาวเหยื่อกามสองคน หลังจากเธอจบชีวิตลงด้วยอาการบาดเจ็บที่สมองเมื่อวันเสาร์ (29) โดยประธานาธิบดี โยอาคิม เกาค์ แห่งเยอรมนีได้ส่งจดหมายแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวของนักศึกษาสาวผู้กล้าหาญคนนี้ด้วย
โฆษกตำรวจเมืองโอแฟนบักให้สัมภาษณ์สำนักข่าวดีพีเอของเยอรมันว่า เมื่อเย็นวันศุกร์ (28) พ่อแม่ของทูเช สมัครใจให้แพทย์ถอดเครื่องยื้อชีวิตลูกสาวที่กลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา ในวันคล้ายวันเกิดปีที่ 23 ของเธอ
เมื่อคืนวันที่ 15 พฤศจิกายน ทูเช อัลไบรัก พลเมืองชาวเยอรมันเชื้อสายตุรกีตกเป็นเหยื่อในเหตุรุนแรง โดยรายงานข่าวระบุว่านักศึกษาจากเมืองเกล์นเฮาเซินคนนี้ได้ตรงเข้าช่วยเหลือเด็กสาว 2 คนที่ถูกชาย 3 คนรุมขืนใจใกล้ห้องน้ำร้านแมคโดนัลด์ ภายหลังเธอได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ
หลังจากนั้นชายคนหนึ่งก็วกกลับไปทำร้ายทูเช ที่ลานจอดรถของร้านฟาสต์ฟูด โดยเธอถูกชกจนล้มคว่ำหัวฟาดหิน สมองได้รับบาดเจ็บรุนแรงถึงแก่ชีวิต
ทั้งนี้ ชายวัย 18 ปีคนหนึ่งถูกควบคุมตัวจากเหตุรุมทำร้ายเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ซึ่งทำให้อัลไบรักมีอาการโคมา ก่อนจะจากไปอย่างสงบเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (28)
ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต 64,000 คนได้ร่วมกันเข้าชื่อขอให้รัฐบาลเยอรมนีมอบเครื่องอิสริยาภรณ์สดุดีวีรกรรมของ ทูเช โดยโฟลเคอร์ บุฟเฟียร์ ผู้ว่าการรัฐเฮสเซิน ได้ประกาศเจตนารมณ์จะเสนอให้ทางการมอบอิสริยาภรณ์แก่ทูเช และเมื่อวันเสาร์ (29) ประธานาธิบดีเกาค์กล่าวว่า เขาจะตรวจสอบดูว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีการมอบอิสริยาภรณ์นี้แก่เธอ โดยประธานาธิบดีเมืองเบียร์ระบุ ผ่านจดหมายแสดงความเสียใจ ที่ส่งถึงครอบครัวของหญิงสาวว่า “ทูเชจะเป็นที่จดจำในฐานะบุคคลที่น่ายกย่อง ประชาชนทั้งประเทศขอร่วมไว้ทุกข์ไปกับคุณ”
ชายที่ลงมือทำร้ายทูเช ซึ่งรายงานข่าวระบุว่าชื่อ เซนัล เอ็ม และมีพื้นเพเป็นชาวเขตปกครองแซนด์ซาค หรือราชกา (Sandzak) ในเซอร์เบีย ได้ยอมรับสารภาพระหว่างการสอบปากคำรอบแรกว่าเขาเป็นคนทำร้ายหญิงสาวจริง และปิดปากเงียบตั้งแต่นั้นมา ขณะที่อัยการกำลังสอบสวนคดีนี้ โดยเตรียมส่งฟ้องศาลเพื่อดำเนินคดีเขาในข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยไม่เจตนา
ประเด็นหนึ่งซึ่งยังเป็นที่กังขาคือ ชะตากรรมของเด็กสาวสองคนที่ทูเชเข้าไปช่วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตามหาพวกเธอเพื่อขอให้มาเป็นพยานปากสำคัญในคดีนี้
ร้านแมคโดนัลด์ซึ่งถูกครอบครัวของทูเชวิพากษ์วิจารณ์ ได้นำคลิปวิดีโอบันทึกภาพขณะเกิดเหตุออกมาตรวจดูอีกครั้ง พร้อมกล่าวปกป้องลูกจ้างของตนที่ไม่ได้เข้าไปช่วยเหลือเหยื่อแต่แรก
การเสียชีวิตของทูเชได้จุดประกายให้เกิดการถกเถียงในประเด็นความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวของพลเรือนไปทั่วเยอรมนี โดยคนจำนวนมากพากันตั้งคำถามทางวิทยุ โทรทัศน์ และโดยเฉพาะสื่อสังคมออนไลน์ว่า พวกเขากล้าพอที่จะเข้าไปช่วยเด็กสาวอย่าง ทูเช หรือไม่ จนนำไปสู่การตั้งคำถามว่า ชาวเยอรมันในปัจจุบัน กล้าพอจะเอาตัวเข้าเสี่ยงในสถานการณ์คับขันหรือไม่
นอกจากนี้ ประชาชนหลายหมื่นคนได้ร่วมกันเขียนข้อความไว้อาลัย และยกย่องความกล้าหาญของหญิงสาวที่ต้องจบชีวิตก่อนวัยอันควรผู้นี้ พร้อมกับแนบแฮชแท็กว่า #Zivilcourage ในขณะที่หน้าเพจเฟซบุ๊ก ที่ตั้งขึ้นเพื่อรำลึกถึงทูเช ก็มีผู้เข้ามากดถูกใจถึง 87,000 คน