เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีแห่งอินเดีย ให้คำมั่นในวันอาทิตย์ (30 พ.ย.) จะหาทางยับยั้งการไหลทะลักของผู้ลักลอบเข้าเมืองชาวบังกลาเทศสู่แคว้นอัสสัม โดยระบุ ชาวบังกลาเทศกลุ่มนี้เป็นตัวการทำลายรัฐทางตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดียแห่งนี้
โมดีซึ่งพรรคภารตียชนตาที่เป็นพรรคการเมืองชาตินิยมฮินดูฝ่ายขวาภายใต้การนำของเขา สามารถคว้าชัยในการเลือกตั้งทั่วไปได้อย่างถล่มทลายเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ได้กล่าวระหว่างเดินทางเยือนเมืองคูวาหตี ที่เป็นเมืองใหญ่ที่สุดในรัฐอัสสัมว่า ชาวบังกลาเทศที่หลั่งไหลเข้าสู่รัฐอัสสัมในแต่ละวันนั้นกำลังทำลายรัฐแห่งนี้ และว่าเขาจะเร่งหาทางจัดการปิดกั้นทุกเส้นทางที่เคยถูกชาวบังกลาเทศใช้เพื่อลักลอบเข้าสู่รัฐอัสสัม
หนึ่งในมาตรการที่โมดีเผยว่าจะนำมาใช้แก้ปัญหาดังกล่าว รวมถึง การผลักดันข้อตกลง “แลกเปลี่ยนดินแดน” กับรัฐบาลบังกลาเทศ
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นปี โมดีเคยกล่าวระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งว่า ผู้ลักลอบเข้าเมืองชาวบังกลาเทศสมควร “เก็บกระเป๋า” และถูกส่งกลับบ้าน ทั้งยังเตือนว่า เขาจะใช้ “ไม้แข็ง” จัดการกับผู้ลักลอบเข้าเมืองเหล่านี้ หากได้รับเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีอินเดีย
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ความตึงเครียดได้เพิ่มสูงขึ้นในรัฐอัสสัม โดยเฉพาะหลังจากที่มีชาวมุสลิมมากกว่า 40 คนซึ่งรวมถึงผู้หญิงและเด็กถูกสังหารโหดเมื่อเดือนพฤษภาคมโดยฝีมือของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนของชนพื้นเมืองอินเดียเผ่า “โบโดส์”
ขณะที่ชนพื้นเมืองรวมถึงนักการเมืองในพื้นที่ต่างกล่าวหาว่าปัญหาความไม่สงบในอัสสัมนั้นมีต้นตอมาจากการไหลทะลักเข้ามาของผู้ลักลอบเข้าเมืองจากประเทศมุสลิมอย่างบังกลาเทศ ที่เข้ามาแย่งชิงที่ดินทำกินและทรัพยากรต่างๆไปจากชนพื้นเมือง
ทั้งนี้ รัฐบาลอินเดียและบังกลาเทศเคยลงนามเมื่อปี 2011 ในข้อตกลงว่าด้วยการปักปันเขตแดนของทั้งสองประเทศที่มีความยาวกว่า 4,000 กิโลเมตร แต่กระบวนการปักปันเขตแดนที่เป็นรูปธรรมยังแทบไม่มีความคืบหน้ามากนัก