เอเจนซีส์ - เดลิเมล สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้(24) ถึงการผจญภัยของสุนัขเร่ร่อนในเอกวาดอร์ที่มาพร้อมกับความมุ่งมั่นและกระตือรือร้นได้ร่วมทีม Peak Performance ในการแข่งกีฬาวิบาก Adventure Racing World Championship เดินทางข้ามอเมซอนในเอกวาดอร์กับทีมนักกีฬาจากสวีเดนที่ต้องฝ่าฟันร่วม 430 ไมล์ ผ่านทั้งแม่น้ำที่ไหลเชี่ยวและป่าลึก ที่ผู้เข้าแข่งขันขนฟูหมายเลข 5ไม่ย่อท้อ และในที่สุดต้องปรับตัวเพื่อการเดินทางครั้งใหม่ไปยังสวีเดนพร้อมเพื่อนคนใหม่มิคาเอล ลินนอร์ด ( Mikael Lindnord) ตัดสินใจรับเลี้ยง “อาร์เธอร์ เดอะ ด็อก”
ในขณะที่มิคาเอล ลินนอร์ด ( Mikael Lindnord)และเพือนร่วมทีม Peak Performance การแข่งขันรายการ Adventure Racing World Championship อีก 3 คนกำลังนั่งพักให้หายเหนื่อย และเริ่มรับประทานอาหารด้วยความหิวในระหว่างทางหลังเดินทางไกลไปได้ 20 ไมล์ในการแข่งขันกีฬาเอ็กสตรีมสุดหฤโหดในเอกวาดอร์ ลินนอร์ดและเพื่อนพบกับสุนัขจรจัดขนฟู สีเหลือง ด้วยความรู้สึกสงสาร ลินนอร์ดได้ให้มีทบอลกับสุนัขจรจัดสัญชาติเอกวาดอร์ตัวนี้โดยไม่คิดอะไร แต่ทว่าเมื่อทีมสวีเดนเริ่มต้นกลับเข้าสู่การแข่งขันอีกครั้ง กลับกลายเป็นว่า เจ้าสุนัขขนฟู หน้าตามอมแมมตัวนี้ตามติดทีมของเขา และไม่เคยหยุด!!
ในขณะที่ทีมได้เข้าสู่ 2 สเตจสุดท้ายของการแข่ง นักกีฬาจากสวีเดนทั้ง 4 ได้กลายเป็นเพื่อนกับเจ้าสุนัขตัวนี้ พร้อมกับตั้งชื่อว่า “อาร์เธอร์”
และกลับกลายเป็นว่านักแข่งหมายเลข 5 ของทีม “อาร์เธอร์ เดอะ ด็อก” ต้องผ่านอุปสรรคนานชนิดเช่นเดียวกับนักกีฬาคนอื่นๆที่ต้องเผชิญ สื่ออังกฤษรายงานว่า อาร์เธอร์ต้องว่ายน้ำในขณะที่เพื่อนมนุษย์ทั้ง 4 กำลังพายเรือคายักกลางแม่น้ำ รวมไปถึงต้องใช้อุ้งเท้าทั้ง 4 เกาะหินให้แน่นเพื่อปีนป่ายขึ้นภูเขาในช่วงไต่เขาวิบาก รวมถึงต้องใช้กำลังในการยกอุ้งเท้าทั้ง 4 ให้สูงในระหว่างการท่องป่าที่เต็มไปด้วยโคลน หรือแม้กระทั่งเพื่อนมนุษย์ร่วมทีมพยายามจะให้ “อาร์เธอร์” นักกีฬาหมายเลข 5 หยุดการแข่งขันและลาออกจากทีมสวีเดน Peak Performance ไปเพื่อความปลอดภัยของเจ้าขนฟู แต่อาร์เธอร์ยืนยันหนักแน่นที่จะต้องเข้าร่วมต่อ และไม่ยอมจากพวกเขาไป
และพบว่าในระหว่างการแข่ง เพื่อนมนุษย์จะหยุดเมื่อสังเกตเห็นอาร์เธอร์เหนื่อย และจะช่วยอาร์เธอร์เมื่อเห็นนักกีฬาหมายเลข 5 ติดหล่มโคลน
หลังจากเสร็จสิ้นการแข่งหลังวันที่ 6 ทีมสวีเดนพาอาร์เธอร์เข้าเช็กสุขภาพเพราะสุนัขได้รับบาดเจ็บ โดยลินนอร์ดและเพื่อนต่างตระหนักว่า ความสัมพันธ์ที่ก่อตัวขึ้นไม่อาจทำให้พวกเขาปล่อยให้เพื่อนตัวน้อยยังคงเร่ร่อนอย่างหิวโหยต่อไปได้ ลินนอร์ดตัดสินใจรับเลี้ยง และให้บ้านตลอดชีวิตกับอาร์เธออย่างเป็นทางการ และทำให้เขายื่นเรื่องไปยังปสุสัตว์ของสวีเดนเพื่อขออนุญาตนำตัวอาร์เธอร์กลับประเทศ
หลังจากช่วงเวลาที่รอคอยอย่างทรมาน ในที่สุดสมาชิกทีม Peak Performance พร้อมอาร์เธอร์รวมตัวที่สนามบินเพื่อเดินทางกลับบ้านที่สวีเดน
สื่ออังกฤษรายงานเพิ่มเติมว่า การแข่งกีฬาวิบาก Adventure Racing World Championship นั้นประกอบไปด้วย ไต่เขา เดินไกล แข่งจักรยานวิบาก รวมถึงพายเรือคายักผ่านกระแสน้ำเชี่ยว โดยผู้เข้าแข่งต่างต้องทำกิจกรรมทุกอย่างต่อเนื่องโดยไม่หยุดพักใน 3 ภูมิประเทศที่แตกต่างกันมากในเอกวาดอร์ ที่รวมถึงเทือกเขาแอนดีส ป่าลึกอเมซอน และชายฝั่งแปซิฟิก
ทั้งนี้ในการให้สัมภาษณ์กับสื่อสวีเดน Aftonbladet ลินนอร์ดกล่าวว่า “ในจุดหนึ่งเราต้องหยุดพักเพราะสุนัขเหนื่อยมาก และเราได้เปิดอาหารกระป๋อง 2 กระป๋องให้กับสุนัขเพราะ แน่นอนว่าไอ้ขนฟูไม่สามารถหาอาหารเองในป่าลึกได้ ซึ่งผมมาอเมริกาใต้เพื่อชัยชนะ แต่กลับเป็นว่าได้พบเพื่อนใหม่แทน”
ซึ่งทุกคนในทีมต่างรู้สึกดีใจมากที่ปสุสัตว์สวีเดนอนุญาตให้ลินนอร์ดสามารถนำอาร์เธอร์กลับไปได้ โดยลินนอร์ดถึงกับหลั่งน้ำตาด้วยความยินดีบนหน้าเครื่องคอมพิวเตอร์เมื่อพบว่า “ คำขอของเขาได้รับการอนุมัติ” หลังจากงานหินเรื่องการขอใบอนุญาตจากสวีเดนผ่านไป และมาถึงสิ่งที่ยากอีกประการที่อาร์เธอร์ต้องมีคือใบรับรองสุขภาพ โดยในระหว่างการรอตรวจสุขภาพตามขั้นตอนที่คลีนิกในเอกวาดอร์ อาร์เธอร์แสดงความเป็นมิตรด้วยการยื่นอุ้งเท้าให้กับหนึ่งในสัตวแพทย์เพื่อแสดงการทักทายแทนการเช็กแฮนด์ ซึ่งในระหว่างที่ต้องอยู่ในเอกวาดอร์ ทางทีมแข่งขันจากสวีเดนได้ตั้งแอกเคาน์ Paypal เพื่อขอรับบริจากเงินสำหรับอาร์เธอร์ เพราะเมื่อใกล้สิ้นสุดการแข่งขันอาร์เธอได้รับบาดเจ็บและทางทีมต้องผลัดกันอุ้มนักกีฬาหมายเลข 5 และท้ายที่สุด “อาร์เธอร์ เดอะด็อก” ต้องถูกบังคับให้สวมโคนพลาสติกเพื่อป้องกันไม่ให้เลียก่อนเตรียมพร้อมเป็น “ซูปเปอร์สตาร์” เผชิญทั้งการถูกรุมขอถ่ายรูปจากบรรดากัปตันเครื่องบินและพนักงานต้อนรับประจำเที่ยวบินกลับบ้านที่สนามบินในเอกวาดอร์ และรวมไปถึงต้องพบกับกล้องนักข่าวที่จ่อมาที่ตัวเข้าเมื่อเดินทางถึงสวีเดน
frameborder="0" allowfullscreen>