xs
xsm
sm
md
lg

In Pics:เม็กซิโกซิตี” ป่วนหนัก ประท้วงกลายเป็นจลาจลใหญ่หลังคดี 43 นักศึกษาหายตัวไม่คืบ ในประเทศที่มีคนสูญหาย 27,000 ดับปริศนา 100,000 ในรอบ 10 ปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์/ASTVผู้จัดการออนไลน์ – หลังจากคาราวานรถบัสของบรรดาญาตินักศึกษาฝึกหัดครู 43 คนที่เดินทางไปทั่วประเทศประจานความรับผิดชอบของรัฐบาลเม็กซิกันที่ไม่สามารถตามหาตัวผู้สูญหายได้ ล่าสุดเมื่อคืนนี้(21) บรรดาผู้ประท้วงหลายหมื่นคนรวมถึงคาราวานรถบัสมารวมตัวที่กลางกรุงเม็กซิโกซิตีถามหาความคืบหน้าของคดี จากการประท้วงสันติในเบื้องต้นเปลี่ยนเป็นจลาจลหนัก เจ้าหน้าที่ตำรวจยิงแก๊ซน้ำตาเข้าใส่ฝูงผู้ประท้วงที่ตอบโต้ด้วยก้อนหินและระเบิดเพลิง

บีบีซี สื่ออังกฤษรายงานเมื่อวานนี้(21)ว่า ครอบครัวเหล่านักศึกษาที่หายตัว 43 คนจากรัฐเกร์เรโร ทางใต้ของเม็กซิโกได้มารวมตัวกันอีกครั้งหลังจากเดินสายการประท้วงทั่วประเทศกลางกรุงเม็กซิโกซิตีพร้อมผู้ประท้วงหลายหมื่นคนเรียกร้องให้รัฐบาลเม็กซิกันรับผิดชอบในการทำคดีนักศึกษา 43 คนที่หายตัวไปก่อนหน้านี้สามารถพาคนเหล่านั้นกลับบ้าน

ในเวลา 17.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น การประท้วงเริ่มต้นจากการเดินขบวนใหญ่ของประชาชนหลายหมื่นคนที่แยกออกเป็น 3 สายในเม็กซิโกซิตี ในขณะที่มีผู้ประท้วงอีกเป็นจำนวนมากปักหลักชุมนุมที่จตุรัสโซคาโล( Zocalo)กลางเมือง และอีกหลายร้อยคนอยู่ด้านนอกทำเนียบประธานาธิบดีเม็กซิกัน ซึ่งตำรวจปราบจลาจลพยายามผลักดันคนเหล่านี้ให้ออกไปด้วยกระสุนน้ำ แต่ผู้ประท้วงที่อยู่ในอารมณ์กราดเกรี้ยวโยนขวดน้ำและประทัดเข้าใส่เจ้าหน้าที่เป็นการตอบโต้

ฟรานซิส ลาโกร (Francisco Lagro) พ่อของแมกดาเลโน ( Magdaleno)นักศึกษาฝึกหัดครูวัย 19 ปี ซึ่งเป็น 1ในนักศึกษา 43 คนที่สูญหาย ได้รวมกองคาราวานประท้วงทั่วประเทศเดินทางมาถึงเม็กซิโกซิตีในวันพฤหัสบดี(20) “เกือบจะเป็นเวลาร่วม 2 เดือนที่คนเหล่านี้หายตัวไปโดยไม่มีข่าวคราว ทางเราไม่รู้อะไรทั้งนั้นและมีจิตใจที่หดหู่” ลาโกรกล่าว และเสริมต่อว่า “ไม่ทราบว่าในขณะนี้นักศึกษาพวกนั้นกำลังทำอะไรอยู่ มีสภาพเป็นแบบไหน มีอาหารและน้ำพอประทังชีวิตรอดหรือไม่ พวกเขาถูกจับมัดหรือไม่ พวกเรามีคำถามมากมายที่ต้องการคำตอบ”

สื่อบีบีซียังรายงานเพิ่มเติมว่า เกิดเหตุรุนแรงจากการประท้วงใกล้กับท่าอากาศยานนานาชาตินอกเม็กซิโกซิตีก่อนเริ่มการประท้วงขึ้นเมื่อวานนี้(21) มีประท้วงราว 200 คนได้ปาก้อนหินและระเบิดขวดเข้าใส่เจ้าหน้าที่ที่เข้าสลาย และพบว่านอกจากเม็กซิฏกซิตีแล้วยังมีการประท้วงในส่วนอื่นทั่วประเทศ และรวมถึงในต่างประเทศ

นอกจากนี้ผู้ประท้วงยังได้เรียกร้องให้ประชาชนเม็กซิกันทั้งประเทศลุกขึ้นผละงานเพื่อบีบบังคับให้รัฐบาลเม็กซิกันเอาจริงเอาจังในการทำคดี ซึ่งคดีนักศึกษาหายตัวเพิ่มแรงกดดันให้กับรัฐบาลเม็กซิโกที่แต่เดิมมีปัญหาคอรัปชัน ซึ่งล่าสุดสตรีหมายเลข 1 ของเม็กซิโกต้องประกาศขายคฤหาสถ์ฉาวหลังจากโดนกล่าวหาในเรื่องคอรัปชัน ด้านประธานาธิบดีเม็กซิกัน เอนริเก้ เปนา นีเอโต ในวันอาทิตย์(16)หลังจากกลับมาจากการร่วมประชุมเอเปกในจีน กล่าวหากลุ่มผู้ประท้วงเหล่านี้พยายามเขย่าเสถียรภาพของเม็กซิโก และได้ออกแถลงการณ์ทางโทรทัศน์ถึง 2 ครั้งในสัปดาห์ที่ผ่านมาจะสลายผู้ร่วมชุมนุมประท้วง ซึ่งบรรดานักวิเคราะห์กล่าวว่า ปัญหาคดีนักศึกษาเม็กซิกันหายตัวถือเป็มรสุมทางการเมืองลูกที่ใหญ่ที่สุดที่ประธานาธิบดีผู้นี้ต้องประสบนับตั้งแต่วันเข้ารับตำแหน่ง

ทั้งนี้บีบีซีได้วิเคราะห์ว่า ปัญหาคอรัปชันและความรุนแรงทางการเมืองในเม็กซิโกเหมือนเป็นมะเร็งที่ลุกลามในประเทศ และไม่สามารถที่จะรักษาหาย ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีประชาชนเม็กซิกันร่วม 100,000 คนต้องเสียชีวิต และอีก 27,000 คนสูญหาย ซึ่งดูคล้ายกับสิ่งปกติในดินแดนอเมริกากลางและอเมริกาใต้ที่ผู้สูญหาย ความรุนแรงทางการเมือง และยาเสฟติดถือเป็นเรื่องปกติ

แต่กระนั้นในคดีสูญหายล่าสุดที่เกิดขึ้นกับนักศึกษาฝึกหัดครู 43 คนเหมือนเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ประชาชนทุกคนที่เข้าร่วมการประท้วงกลางเม็กซิโกซิตีต่างโกรธเกรี้ยวต่อความไม่เอาไหนของผู้นำประเทศ ที่คล้ายกับนักการเมืองอื่นๆที่ต้องการแต่เสียงลงคะแนนเพื่อให้ตนเองยังอยู่ในอำนาจแต่ไร้ความสามารถในการแก้ปัญหา และล้มเหลวที่จะทำให้ประชาชนของเขาเชื่อมั่นในหน่วยงานรัฐ ที่ทางเหล่าผู้ปกครองไม่เชื่อว่านักศึกษาเหล่านั้นจะเสียชีวิตไปแล้วถึงแม้ว่าอัยการสูงสุดของเม็กซิโกจะประกาศแถลงโดยอ้างจากคำรับสารภาพของผู้ถูกกล่าวหา 3 คนที่อยู่ในองค์กรค้ายาเสพติดในเมืองอิกัวลา และประธานาธิบดีเม็กซิโกและหน่วยงานรัฐไม่สามารถหาหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มายืนยันถึงการเสียชีวิตคนเหล่านี้ที่กลุ่มผู้ต้องสงสัยอ้างว่าได้รับมอบตัวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่น และสังหารคนเหล่านี้แล้ว แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้จะยืนยันว่านักศึกษา 43 คนที่เป็นผู้สูญหายนั้นเสียชีวิต แต่ทางรัฐบาลเองปฎิเสธที่จะยืนยันการเสียชีวิตอย่างเป็นทางการ และนำมาสู่คำถามที่เกิดขึ้นกับผู้ปกครองนักศึกษาฝึกหัดครูเหล่านั้น ตลอดจนผู้ประท้วงว่า “เกิดอะไรขึ้น” และ “ไม่รู้อะไรเลย”

นอกจากนี้การสูญหายของนักศึกษาเหล่านี้ยังเกี่ยวพันถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเมืองอิกัวลาที่ก่อนหน้านี้ โฮเซ ลูอิส อาบาร์คา (Jose Luis Abarca) นายกเทศมนตรีและภรรยาถูกจับกุม และรวมไปถึงข่าวตำรวจท้องที่พัวพันการหายตัวไปของเด็กเหล่านี้ จึงไม่แปลกใจว่าเหตุใดเม็กซิโกซิตีจึงเนืองแน่นไปผู้ที่ต้องการหาคำตอบในคำถามที่ไม่มีวันจะได้พบที่แท้จริงจากรัฐบาลของพวกเขาชุมนุมเรียกร้องในสิ่งที่เป็นสิทธิและความชอบธรรมที่ประชาชนธรรมดาควรจะได้รับจากผู้นำของประเทศ







กำลังโหลดความคิดเห็น