เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - นิตยสาร “ฟอร์บส์” ของสหรัฐฯ เวอร์ชันตีพิมพ์ในอิสราเอลเผยในวันพุธ (12 พ.ย.) ระบุว่ากลุ่มนักรบญิฮัดรัฐอิสลาม (Islamic State : IS) ซึ่งกำลังแผ่ขยายอิทธิพลอย่างต่อเนื่องในอิรักและซีเรีย ถือเป็น “เครือข่ายก่อการร้ายที่มั่งคั่งที่สุดในโลก”
รายงานล่าสุดของทีมงานฟอร์บส์ อิสราเอลระบุว่า ความมั่งคั่งของกลุ่มไอเอสในขณะนี้ มีที่มาจากการที่พวกนักรบญิฮัดของกลุ่มสามารถบุกเข้ายึดแหล่งน้ำมันดิบและโรงกลั่นได้เป็นจำนวนมากทั้งในพื้นที่ภาคตะวันออกของซีเรีย รวมถึงพื้นที่ภาคตะวันตกและภาคเหนือของอิรัก
ข้อมูลของฟอร์บส์ อิสราเอลระบุว่า มูลค่าของแหล่งน้ำมันที่ตกอยู่ภายใต้การยึดครองของกลุ่มไอเอสในเวลานี้มีไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 65,720 ล้านบาท)
ลำพังกลุ่มนักรบไอเอสส่วนที่ปฏิบัติการอยู่ในอิรักเพียงประเทศเดียวก็มีรายได้จากการขายน้ำมันเข้ากระเป๋าสูงถึง “2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 66 ล้านบาท) ต่อวัน” จากการจำหน่ายน้ำมันดิบ “วันละเกือบ 30,000 บาร์เรล” แม้การขายน้ำมันของกลุ่มไอเอสจะเป็นการจำหน่ายในราคาที่ต่ำกว่าตลาดโลกหลายเท่าตัวก็ตาม
นอกเหนือจากกลุ่มไอเอสที่ติดอันดับเป็น “เครือข่ายก่อการร้ายที่มั่งคั่งที่สุดในโลก” แล้ว ข้อมูลของฟอร์บส์ อิสราเอลยังระบุว่า กุล่มหัวรุนแรงอื่นๆ ที่ติดอันดับในเรื่องของความมั่งคั่งรองลงมา ประกอบไปด้วย กลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา (มีรายได้ 1,000 ล้านดอลลาร์), กองทัพประชาชนเพื่อการปฏิวัติแห่งโคลอมเบียหรือกลุ่ม FARC (รายได้ 600 ล้านดอลลาร์), กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน (500 ล้านดอลลาร์), กลุ่มตอลิบานในอัฟกานิสถาน (400 ล้านดอลลาร์) ตามมาด้วยเครือข่ายก่อการร้ายอัลกออิดะห์ (150 ล้านดอลลาร์)
ทั้งนี้ รายงานระบุว่า กลุ่มหัวรุนแรงเหล่านี้มีแหล่งรายได้สำคัญมาจากการค้ามนุษย์ ค้ายาเสพติด อาวุธสงคราม ตลอดจนการโจรกรรมวัตถุโบราณไปจำหน่ายในตลาดมืด รวมถึงการจับชาวบ้านเรียกค่าไถ่ และการปล้นธนาคาร ฯลฯ
