รอยเตอร์ – ชาวบ้านในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกรุมปาหินใส่หนุ่มผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นพวกอิสลามิสต์ ก่อนนำศพไปจุดไฟเผาและแล่เนื้อออกมากินระบายแค้น เมื่อวานนี้(31) หลังชุมชนของพวกเขาถูกกบฏยูกันดาโจมตีหลายระลอกจนมีคนเสียชีวิตกว่าร้อยรายในเดือนเดียว พยานผู้เห็นเหตุการณ์เผย
เหตุการณ์สุดสยองที่เมืองเบนี (Beni) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกเกิดขึ้น หลังจากชาวบ้านถูกกลุ่มอิสลามิสต์ ADF-NAUL ซึ่งใช้มีดสปาร์ตาและขวานเป็นอาวุธบุกโจมตียามค่ำคืนหลายต่อหลายครั้ง จนมีผู้เสียชีวิตไปมากกว่า 100 คนตลอดเดือนตุลาคม
ผู้เห็นเหตุการณ์บอกว่า ชายหนุ่มที่ตกเป็นเหยื่อประชาทัณฑ์ได้แสดงพฤติกรรมน่าสงสัยบนรถประจำทาง เช่น พูดภาษาสวาฮิลีไม่ได้ และยังพกมีดสปาร์ตาด้วย
ประธานาธิบดี โจเซฟ กาบิลา แห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ได้เปิดแถลงข่าวที่เมืองเบนีว่า กลุ่มติดอาวุธ ADF-NAUL จะต้องพบชะตากรรมเดียวกับกบฏ M23 ซึ่งถูกปราบจนราบคาบเมื่อปีที่แล้วโดยกองกำลังรัฐบาลที่มีองค์การสหประชาชาติหนุนหลัง
“เราจะไม่เจรจากับพวกก่อการร้าย... พวกเขาจะต้องพ่ายแพ้เหมือนกับพวก M23 ในอีกไม่ช้านี้” กาบิลา แถลงต่อสื่อมวลชนที่โรงแรมแห่งหนึ่ง
AFF-NAUL เป็นเครือข่ายกลุ่มติดอาวุธซึ่งต่อต้านรัฐบาลยูกันดา และอาศัยประเทศเพื่อนบ้านอย่างสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกเป็นฐานปฏิบัติการมาตั้งแต่ช่วงกลางทศวรรษ 2000
เท็ดดี คาตาลิโก ประธานสมาคมพลเรือนเมืองเบนี เปิดเผยว่า กลุ่มติดอาวุธยูกันดาได้คร่าชีวิตชาวบ้านไป 14 คนที่หมู่บ้านกัมปียาชุย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา(30) ทำให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตในเดือนตุลาคมพุ่งเป็น 107 ศพ
เมื่อเช้าวันศุกร์(31) ชาวบ้านประมาณ 100 คนได้รวมตัวกันปิดถนนจากสนามบินสู่เมือง พร้อมขว้างปาก้อนหินและชูมีดสปาร์ตา เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลกินชาซาเข้ามาปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของพวกเขาจากการถูกคุกคามโดยพวกกบฏยูกันดา
ด้านรัฐบาลยูกันดา ระบุว่า ADF-NAUL เป็นพันธมิตรกับขบวนการอิสลามิสต์ อัล-เชบับ ในโซมาเลีย แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ชี้ว่า ลักษณะความสัมพันธ์ของ 2 กลุ่มนี้ยังไม่ชัดเจนนัก แม้ว่า ADF-NAUL จะยึดถือค่านิยมแบบอิสลามิสต์ชัดเจนเหมือนกันก็ตาม