เอเอฟพี – การเจาะรหัสบัตรเครดิตกลายเป็นอาชญากรรมที่ชาวอเมริกันรู้สึกหวาดกลัวมากที่สุดในปัจจุบัน ยิ่งกว่าการถูกจี้ชิงทรัพย์หรือถูกฆาตกรรมเสียอีก ผลสำรวจโดยสำนักวิจัยแกลลัปที่เผยแพร่วานนี้(27) ระบุ
ชาวอเมริกันเริ่มตื่นตัวกับอาชญากรรมบัตรเครดิตมากขึ้น หลังบริษัทค้าปลีกใหญ่ๆ หลายรายออกมายอมรับว่า ตกเป็นเหยื่อแก๊งแฮกเกอร์ที่เข้าไปล้วงข้อมูลบัตรเครดิตของลูกค้านับสิบๆ ล้านราย
“ทุกวันนี้คนอเมริกันกลัวถูกขโมยข้อมูลบัตรเครดิตเวลาไปจับจ่ายซื้อของยิ่งกว่ากลัวอาชญากรรมประเภทอื่นๆ และผู้ตอบแบบสอบถามที่ยอมรับว่าตัวเองเคยถูกแฮ็กข้อมูลส่วนตัวก็มีเปอร์เซ็นต์สูงทีเดียว” สำนักวิจัยแกลลัป เผย
ผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 69 ยอมรับว่า บ่อยครั้งหรือมีบ้างเป็นบางครั้งที่พวกเขารู้สึกกลัวว่าข้อมูลบัตรเครดิตจะถูกขโมยเวลาไปซื้อของตามห้าง รองลงมาคือการถูกเจาะข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟน (ร้อยละ 62) การถูกขโมยขึ้นบ้านเวลาไม่มีใครอยู่ (ร้อยละ 45) และการถูกขโมยรถยนต์หรือถูกทุบรถ (ร้อยละ 42)
ผู้ตอบคำถามร้อยละ 31 ระบุว่า พวกเขากลัวลูกหลานที่อยู่ในวัยเรียนจะถูกทำร้ายเมื่อไปโรงเรียน และกลัวถูกปล้นทรัพย์
สำหรับอาชญากรรมที่ผู้คนหวาดกลัวรองๆ ลงมา ได้แก่ การตกเป็นเหยื่อกลุ่มก่อการร้าย (ร้อยละ 28) ถูกฆาตกรรม (ร้อยละ 18) และถูกเพื่อนร่วมงานทำร้ายหรือสังหาร (ร้อยละ 7.0)
ผู้ให้ข้อมูลร้อยละ 27 บอกว่า ตัวพวกเขาเองหรือสมาชิกในครอบครัวเคยถูกล้วงข้อมูลบัตรเครดิตในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นอาชญากรรมที่มีคนตกเป็นเหยื่อบ่อยครั้งที่สุดจากทั้งหมด 9 ประเภทที่ แกลลัป สอบถาม
ข่าวการเจาะข้อมูลคอมพิวเตอร์ของห้างค้าปลีกรายใหญ่ๆ เช่น ทาร์เก็ต หรือ โฮม ดีโปต์ ยังส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคมากพอสมควร แกลลัป เผย
“ความเสี่ยงเหล่านี้อาจทำให้พฤติกรรมการจับจ่ายซื้อของเปลี่ยนไป ผู้บริโภคอาจหันไปหาวิธีที่สามารถปกปิดตัวตนและข้อมูลการเงินได้มากขึ้น อาจจะไม่ไปซื้อของจากห้างที่เคยถูกแฮ็ก และเลือกจ่ายเป็นเงินสดหรือบัตร พรี-เพด เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนตัว” แกลลัป ระบุ