รอยเตอร์ - การโจมตีทางอากาศโดยกองกำลังที่มีสหรัฐฯ เป็นหัวหอกได้สังหารนักรบอิสลามิสต์ไปแล้ว 553 คน และพลเรือน 32 คน ระหว่างปฏิบัติการในซีเรียที่ดำเนินมาแล้วกว่า 1 เดือน กลุ่มสังเกตการณ์ซึ่งติดตามความรุนแรงดังกล่าว ระบุวันนี้ (23 ต.ค.)
กลุ่มสังเกตการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนในซีเรีย (Syrian Observatory for Human Rights) ซึ่งมีฐานอยู่ที่อังกฤษระบุว่า ในจำนวนผู้เสียชีวิตดังกล่าว เป็นนักรบติดอาวุธจากกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ซึ่งได้เข้ายึดดินแดนขนาดใหญ่ในซีเรียและอิรัก มากถึง 464 ราย
กลุ่มสังเกตการณ์กลุ่มนี้ซึ่งมีเครือข่ายแหล่งข่าวภายในซีเรีย ระบุว่า การโจมตีดังกล่าวยังได้สังหารสมาชิกกลุ่มนุสรา ฟรอนท์ เครือข่ายของกลุ่มอัลกออิดะห์ 57 ราย และเสริมว่า ในหมู่พลเรือนที่ถูกสังหารเป็นเด็ก 6 ราย และผู้หญิง 5 ราย
สหรัฐฯ เดินหน้าปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในอิรักต่อกลุ่มไอเอสมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม และในซีเรียตั้งแต่เดือนกันยายน ร่วมด้วยความช่วยเหลือจากพันธมิตรชาติอาหรับ ขณะที่อังกฤษและฝรั่งเศสก็โจมตีเป้าหมายกลุ่มไอเอสในอิรักด้วยเช่นกัน
วอชิงตันอ้างว่า ปฏิบัติการของเขาในซีเรียอยู่ภายใต้มาตรา 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติ ซึ่งครอบคลุมสิทธิส่วนบุคคลหรือร่วมที่จะป้องกันตนเองจากการโจมตีด้วยอาวุธ
พ.อ.แพทริก ไรเดอร์ โฆษกกองบัญชาการกลางสหรัฐฯ แถลงเมื่อวันเสาร์ (18) วอชิงตันได้รับ “รายงานการบาดเจ็บล้มตายของพลเรือนหรือความเสียหายต่อสิ่งปลูกสร้างของพลเรือนแล้ว และเรามีกระบวนการที่จะสืบสวนในแต่ละข้อหา”
การโจมตีของกลุ่มพันธมิตรมีขึ้นที่จังหวัดอเลปโป, เดียร์ อัล-ซอร์, อิดลิบ, รอกา และอัล-ฮัสซาคาห์ ในซีเรีย กลุ่มสังเกตการณ์ระบุ
