รอยเตอร์ - ตำรวจปราบจลาจลฮ่องกงใช้สเปรย์พริกไทยและตะบองเข้าเล่นงานฝูงชนผู้ชุมนุมฝักใฝ่ประชาธิปไตยอีกรอบในตอนค่ำวันศุกร์(17ต.ค.) หลังจากก่อนหน้านี้อาศัยช่วงเวลาในรุ่งสางเข้าเคลียร์เขตประท้วงหลักในเขตบริหารพิเศษของจีนแห่งนี้ จนเกิดการปะทะเล็กๆน้อยๆ
กลุ่มผู้ประท้วงมุ่งหน้ากลับมารวมตัวกันในย่านมงก๊ก ช่วงเย็นวันศุกร์(17ต.ค.) หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจด้านการงานและเรียนหนังสือ ในความพยายามยึดคืนสี่แยกแห่งหนึ่งที่ตำรวจบุกเข้าเคลียร์พื้นที่โดยที่ผู้ชุมนุมไม่ทันตั้งตัวช่วงรุ่งสางที่ผ่านมา โดยจุดดังกล่าวอยู่ฝั่งตรงข้ามอ่าววิกตอเรียกับที่ตั้งชุมนุมใหญ่ซึ่งอยู่ด้านหน้าที่ว่าการเขตบริหารพิเศษฮ่องกง
เหล่าผู้ประท้วงหลายร้อยคนพยายามฝ่าแนวของตำรวจและใช้ร่มป้องกันตนเองจากสเปรย์พริกไทย ส่วนตำรวจก็ใช้ตะบองต่อสู้กันอุตลุตกับนักเคลื่อนไหว ทั้งนี้ตำรวจลากผู้ชุมนุมออกไปได้หลายคน ท่ามกลางเสียงตะโกนด่าทอเรียกร้องให้เปิดถนนของคนอื่นๆ
ผู้ชุมนุมที่นำโดยเหล่านักศึกษารุ่นใหม่ เรียกร้องพรรคคอมมิวนิสต์จีนยึดถือคำสัญญาว่าจะมอบประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์แก่อดีตอาณานิคมของอังกฤษแห่งนี้ ที่กลับสู่การปกครองของจีนในปี 1997 แต่ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ปักกิ่งกลับเสนอให้ชาวฮ่องกงสามารถออกเสียงลงคะแนนเพื่อเลือกผู้นำของตนเองได้ในการเลือกตั้งผู้ว่าการเขตบริหารพิเศษปี 2017 ทว่าผู้สมัครทั้งหมดต้องผ่านการอนุมัติมาจากคณะกรรมาธิการที่มีแดนมังกรอยู่เบื้องหลัง ซึ่งผู้ประท้วงคร่ำครวญว่ามันเป็นประชาธิปไตยจอมปลอม
ก่อนรุ่งสางของวันศุกร์(17ต.ค.) ตำรวจหลายร้อยนายปฏิบัติการจู่โจมครั้งใหญ่ที่สุดต่อแคมป์ผู้ประท้วงฝักใฝ่ประชาธิปไตย โดยเข้าเล่นงานเหล่านักเคลื่อนไหวที่ยึดครองสี่แยกดังกล่าวที่ถือเป็นหนึ่งในพื้นที่ชุมนุมหลักของการประท้วงอันยืดเยื้อมานานกว่า 3 สัปดาห์
ปฏิบัติการครั้งนี้มีขึ้นในระหว่างที่ผู้ประท้วงจำนวนมากยังคงนอนหลับพักผ่อนอยู่ในเตนท์หรือถุงนอน จนเกิดการปะทะเล็กน้อย ขณะที่การจู่โจมดังกล่าวถือเป็นการเดิมพันของตำรวจของเกาะที่มีกำลังพลถึง 28,000 นาย หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในปฏิบัติการขอคืนพื้นที่อย่างก้าวร้าว ด้วยการใช้แก๊สน้ำตาและตะบองกับผู้ชุมนุม รวมถึงทุบตีผู้ประท้วงที่ถูกใส่กุญแจมือรายหนึ่งในวันพุธ(15ต.ค.)
ก่อนหน้านี้ เหลียง ชุนอิง (ซี วาย เหลียง) ผู้บริหารสูงสุดของเกาะฮ่องกง ประกาศในวันพฤหัสบดี (16 ต.ค.) ว่า พร้อมเริ่มเจรจากับแกนนำนักศึกษาอีกครั้งโดยอย่างเร็วที่สุดน่าจะเกิดขึ้นได้ในสัปดาห์หน้า แต่ยังคงย้ำว่า ทางการแผ่นดินใหญ่ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงหลักการการเลือกตั้งผู้นำฮ่องกง