เอเอฟพี – ภายหลังเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีชายชาวไลบีเรียเสียชีวิตจากเชื้ออีโบลาขณะเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลสหรัฐ ล่าสุดวันนี้ (12 ต.ค.) แพทย์อเมริกันแถลงว่า จากการตรวจเลือดเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในมลรัฐเทกซัสที่คอยพยาบาลชายชาวไลบีเรียคนดังกล่าวเบื้องต้นพบว่า เขามีผลเลือดเป็นบวก ทำให้เขาเป็นบุคคลคนที่ 2 ที่แพทย์วินิจฉัยพบเชื้ออีโบลาขณะอยู่ในสหรัฐฯ
นพ.เดวิด เลคกีย์ อธิบดีกรมบริการทางการแพทย์รัฐเทกซัสกล่าวว่า “เรารู้ว่า มีความเป็นได้ที่จะพบผู้ติดเชื้อเป็นรายที่สอง และเราได้เตรียมรับมือกับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นเช่นนี้แล้ว”
“เราได้ขยายคณะทำงานในเมืองดัลลัส และกำลังทำงานด้วยความระมัดระวังอย่างสูง เพื่อป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดออกไปอีก”
กรมบริหารทางการแพทย์ระบุในคำแถลงว่า เมื่อวันศุกร์ (10) ได้รับรายงานว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขคนนี้มีไข้ต่ำๆ และถูกแยกรักษาในห้องเดี่ยว ก่อนจะถูกส่งตัวไปตรวจ แต่คำแถลงไม่ได้เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่คนนี้เป็นใคร หรือเขาสัมผัสกับเชื้อไวรัสได้อย่างไร
คำแถลงระบุเพิ่มเติมว่า “เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้สัมภาษณ์คนไข้เพื่อสืบหาว่า เขาได้ติดต่อหรือคลุกคลีกับคนอื่นๆ หรือไม่ โดยคนที่มีประวัติติดต่อกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขคนนี้ ภายหลังที่เขาแสดงอาการ จะถูกเฝ้าสังเกตอาการ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับว่า พวกเขาใกล้ชิดกับผู้ป่วยในลักษณะใด และมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ที่พวกเขาจะสัมผัสกับเชื้อไวรัส”
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขผู้นี้ทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลเทกซัสเฮลธ์เพสบิเทียเรียน ในเมืองดัลลัส ซึ่งสถานพยาบาลที่ โธมัส อีริก ดันแคน ชายชาวไลบีเรียที่เสียชีวิตจากเชื้ออีโบลาเมื่อวันพุธ (8) เข้ารับการรักษาตัว
