รอยเตอร์/เอเอฟพี - สหรัฐฯเตือนวันศุกร์(10ต.ค.) มีความเป็นไปได้อย่างสูงที่เหล่าชาติพันธมิตรทั่วโลกซึ่งเข้าร่วมปฏิบัติการถล่มทางอากาศต่อรัฐอิสลาม(ไอเอส) ในซีเรียและอิรักจะตกเป็นเป้าหมายโจมตีแก้แค้นจากพวกนักรบ โดยเฉพาะประเทศในตะวันออกกลาง ยุโรปและเอเชีย
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯมีการอัพเดทการแจ้งเตือนเกี่ยวกับภัยคุกคามโลกอยู่เป็นประจำ แต่ในรายงาน "Worldwide Caution" ฉบับล่าสุดนี้แตกต่างจากฉบับหลังสุดเมื่อเดือนเมษายน เนื่องจากคราวก่อนเผยแพร่ออกมาก่อนหน้าที่นักรบไอเอสจะจู่โจมยึดครองพื้นที่บริเวณกว้างคร่อมดินแดนของอิรักและซีเรีย กระตุ้นให้เกิดการจัดตั้งพันธมิตรสหรัฐฯ อาหรับและยุโรป เพื่อกำราบพวกญิฮัดกลุ่มนี้โดยเฉพาะ
"เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นไปได้มากขึ้นที่จะมีการโจมตีแก้แค้นผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ชาติตะวันตกและพันธมิตรคู่หูทั่วโลก โดยเฉพาะในตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือ ยุโรปและเอเชีย" กระทรวงการต่างประเทศอเมริการะบุ พร้อมชี้ว่าเพื่อตอบโต้ปฏิบัติการถล่มทางอากาศของวอชิงตันต่อที่มั่นและยุทโธปกรณ์ของพวกนักรบในซีเรียและอิรัก พวกไอเอสได้เรียกร้องให้ผู้สนับสนุนโจมตีชาวต่างชาติไม่ว่าที่ไหนก็ตาม
สหรัฐฯยังเตือนประชาชนของตนเองด้วยว่าจากนี้ไปจะพบเหตุลักพาตัวและจับตัวประกันที่เกี่ยวข้องกับพลเมืองอเมริกาเพิ่มมากขึ้น ตามหลังเหตุการณ์ลักพาตัวและฆ่าตัดศีรษะ 2 ผู้สื่อข่าวชาวสหรัฐฯและ 2 เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ชาวอังกฤษ
นอกจากนี้อเมริกาและชาติตะวันตกอื่นๆยังต้องกังวลต่อความเป็นไปได้ของเหตุโจมตีโดยฝีมือผู้คนที่ได้รับการฝึกฝนจากพวกนักรบในซีเรียและอิรัก โดยเฉพาะการโจมตีผลประโยชน์ของวอชิงตันและตะวันตกในยุโรป "จากข้อมูลที่น่าเชื่อถือบ่งชี้ว่ากลุ่มก่อการร้ายต่างๆยังคงแสวงหาทางโจมตีผลประโยชน์ของสหรัฐฯในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ" กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯเน้น
ตะวันออกกลางเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ตามหลังการจู่โจมยึดครองพื้นที่บริเวณกว้างคร่อมดินแดนของอิรักและซีเรียของพวกนักรบไอเอส กลุ่มญิฮัดสุหนี่ที่ฆ่าตัดศีรษะตัวประกัน สั่งให้ชาวบ้านที่ไม่ใช่ชาวมุสลิมหรือเป็นมุสลิมชีอะห์เปลี่ยนศาสนาเป็นนิกายสุหนี่ ไม่เช่นนั้นก็ต้องพบกับความตาย
ภัยคุกคามของพวกไอเอส ส่งผลให้สหรัฐฯจัดตั้งพันธมิตรทหารนานาชาติเพื่อสู้รบกับนักรบญิฮัดกลุ่มนี้ และหลังจากพยายามฝืนใจไม่ใช้ปฏิบัติการทางทหารเพิ่มเติมในตะวันออกกลางมานานหลายเดือน ท้ายที่สุดในเดือนสิงหาคม ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ก็ออกคำสั่งให้เครื่องบินรบอเมริกาโจมตีทางอากาศถล่มเป้าหมายต่างๆของนักรบรัฐอิสลามในอิรัก ก่อนขยายปฏิบัติการสู่ซีเรียเมื่อเดือนที่แล้ว
ทั้งนี้มีหลายประเทศที่เข้าร่วมปฏิบัติการโจมตีทางอากาศทั้งในซีเรียและอิรัก หรือเฉพาะชาติใดชาติหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นออสเตรเลีย บาห์เรน อังกฤษ ฝรั่งเศส จอร์แดน ซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์