เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันร่วงหนักวานนี้ (9 ต.ค.) โดยตลาดลอนดอนหลุด 90 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปีเศษ เช่นเดียวกับวอลล์สตรีทที่ดิ่งราวร้อยละ 2 ท่ามกลางความกังวลต่อเศรษฐกิจโลก ปัจจัยนี้ผลักให้ทองคำพุ่งแรง เหตุนักลงทุนตะเกียกตะกายหาสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 1.54 ดอลลาร์ ปิดที่ 85.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำที่สุดนับตั้งแต่กลาเดือนธันวาคม 2012 ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอนงวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.33 ดลลาร์ ปิดที่ 89.90 ดอลลาร์ ต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2012
ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันเมื่อวันพฤหัสบดี (9 ต.ค.) เป็นผลจากข้อมูลใหม่ที่เผยให้เห็นตัวเลขการส่งออกที่ร่วงลงอย่างหนักของ 2 ชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของยูโรโซนได้แก่เยอรมนีและฝรั่งเศส ขณะเดียวกันสถาบันวิจัยชั้นนำของเมืองเบียร์ ยังปรับลดประมาณการณ์ขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศลงอีกต่างหาก
ข้อมูลดังกล่าวกระตุ้นให้นางคริสติน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ออกมาเตือนในวันเดียวกันว่า มีโอกาสถึงร้อยละ 35-40 ที่ยูโรโซนจะกลับเข้าสู่ภาวะถดถอย หากไม่ดำเนินการใดๆ เพื่อป้องกัน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอของเยอรมนีและฝรั่งเศส ฉุดให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (9 ต.ค.) ร่วงลงราวร้อยละ 3 จากแรงเทขายอย่างกว้างขวาง ท่ามกลางความกังวลต่อภาวะการเติบโตของต่างแดน
ดาวโจนส์ ลดลง 334.97 จุด (1.97 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,659.25 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 40.68 จุด (2.07 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,928.21 จุด แนสแดค ลดลง 90.25 จุด (2.02 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,378.34 จุด
ความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจยูโรโซน กระตุุ้นให้นักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ส่งผลให้ราคาทองคำเมื่อวันพฤหัสบดี (9 ต.ค.) พุ่งขึ้นแรง โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 19.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,225.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์