เอเอฟพี - องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (ไอโอเอ็ม) ระบุว่า อาจมีผู้อพยพเสียชีวิตเป็นจำนวนมากถึง 500 คน ภายหลังพวกลักลอบขนคนเข้าเมืองผิดกฎหมายหุนหันเร่งเครื่องยนต์ จนเรือพลิกคว่ำอับปางในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (11) เรือบรรทุกสินค้าลำหนึ่งช่วยชีวิตชาวปาเลสไตน์ 2 คนเอาไว้ได้ หลังเรือที่พวกเขานั่งมาเกิดอับปางใกล้ประเทศมอลตา โดยองค์การนี้ระบุว่า ก่อนที่พวกลอบขนคนเข้าเมืองจะทำเรือล่ม เรือลำดังกล่าวอาจบรรทุกผู้โดยสารมากถึงราว 500 คน
ฟลาวีโอ ดี จีอาโกโม โฆษกไอโอเอ็มประจำอิตาลีกล่าวกับเอเอฟพีว่า “ผู้รอดชีวิตสองคนที่ถูกพาไปแคว้นซิซิลี บอกเราว่า มีคนโดยสารมากับเรือลำนั้นอย่างน้อย 500 คน และมีผู้รอดชีวิตอีก 9 คน ที่เรือของชาวกรีกและชาวมอลตาช่วยเอาไว้ได้ทัน แต่คนที่เหลือทั้งหมดน่าจะตายไปหมดแล้ว”
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีฝ่ายใดสามารถยืนยันความถูกต้องของรายละเอียดในเหตุเรือล่มได้
ผู้รอดชีวิตทั้งสองเล่าว่า ผู้อพยพชาวซีเรีย ปาเลสไตน์ อียิปต์ และซูดานได้เริ่มออกเดินทางจากเมืองดาเมียตตาในอียิปต์ เมื่อวันที่ 6 กันยายน และถูกสั่งให้เปลี่ยนเรือหลายครั้งหลายหน ระหว่างเดินทางมุ่งหน้าไปทวีปยุโรป
จากนั้นพวกลักลอบขนคนเข้าเมืองที่อยู่บนเรืออีกลำ ก็สั่งให้พวกเขาย้ายไปนั่งเรือลำหนึ่งซึ่งมีขนาดเล็กกว่า ผู้อพยพจำนวนมากจึงหวั่นเกรงว่า มันจะเล็กเกินกว่าจะรองรับพวกเขา
ไอโอเอ็มระบุว่า พวกเขาเล่าว่า พอผู้อพยพไม่ยอมย้ายไปนั่งในเรือลำเล็ก พวกที่ควบคุมเรือลำที่พวกเขานั่งอยู่ก็เร่งเครื่องยนต์ด้วยความโมโหจนเรือพลิกคว่ำ
ตำรวจอิตาลีได้เปิดฉากการสืบสวนเหตุเรืออับปางครั้งนี้แล้ว
กองทัพเรืออิตาลีระบุว่า เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ปฏิบัติการลาดตระเวนทางน้ำขนาดใหญ่ของอิตาลีซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ “แมร์ นอสทรัม” (ชื่อของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในภาษาโรมัน) สามารถช่วยผู้อพยพและผู้แสวงหาที่พักพิงไว้ได้ถึง 2,380 คน โดยปฏิบัติการนี้เปิดฉากขึ้น หลังมีผู้เสียชีวิตจากเรือล่มเมื่อเดือนตุลาคม ปีที่แล้ว ไปกว่า 400 คน