เอเอฟพี - หน่วยกู้ภัยระบุวันนี้ (10 ก.ย.) ว่ายอดผู้เสียชีวิตจากเหตุมัสยิดถล่ม ทางภาคตะวันออกของปากีสถานได้ทะยานสู่ 24 ศพ ภายหลังมีการกู้ศพออกมาจากซากปรักหักพังได้เพิ่มเติม
วานนี้ (9) บรรดาผู้ศรัทธาชาวมุสลิมต้องจบชีวิตลง เมื่อหลังคาของมัสยิดในเมืองลาฮอร์ ถล่มลงมา ในช่วงที่ประชาชนเกือบ 40 ชีวิตรวมตัวกันทำพิธีละหมาดในช่วงบ่าย
เหตุสลดครั้งนี้เกิดขึ้นในดารอกฮาวาลา ซึ่งเป็นย่านอยู่อาศัยของชาวบ้านรายได้ต่ำ ที่มีตรอกซอกซอยแออัดคับแคบในเมืองลาฮอร์
โมฮัมเหม็ด ราชิด เจ้าหน้าที่คนหนึ่งกล่าวกับเอเอฟพีในห้องบัญชาการการกู้ภัยว่า “ตอนนี้ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุมัสยิดถล่มเพิ่มขึ้นเป็น 24 คนแล้ว โดยผู้เสียชีวิตมีอายุตั้งแต่ 15 ถึง 35 ปี”
เขากล่าวว่า “เราสามารถนำตัวผู้บาดเจ็บสาหัสออกมาจากซากมัสยิดได้ 7 คน”
โมฮัมเหม็ด อุสมาน หัวหน้าเขตเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า สามารถนำร่างผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บออกมาจากซากปรักหักพัง ระหว่างดำเนินการค้นหานาน 13 ชั่วโมง
เขากล่าวว่า ปฏิบัติการกู้ภัยจะยังดำเนินต่อไปจนกว่าจะสามารถเคลื่อนย้ายซากมัสยิดออกไปได้ทั้งหมด
อุสมานกล่าวว่า “ชาวบ้านเล่าว่า ผู้รอดชีวิตน่าจะได้รับการช่วยเหลือออกมาเกือบหมดแล้ว แต่เราจะยังค้นหาต่อไปจนกว่าจะเคลื่อนย้ายซากปรักหักพังออกไปได้จนหมด เพื่อให้แน่ใจว่ายังไม่มีใครตกค้างอยู่อีก”
ทั้งนี้ ปากีสถานได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีมาตรฐานการก่อสร้างและการซ่อมบำรุงอาคารต่ำ
ในหมู่ผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยทั่วปากีสถานกว่า 200 คน มีคนจำนวนมากที่ต้องจบชีวิตลงเพราะถูกหลังคาถล่มทับ
เมื่อปี 2012 มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 21 รายจากเหตุโรงงานถล่มในเมืองลาฮอร์ โดยในจำนวนนี้ 16 คนเป็นผู้หญิง และ 4 คนเป็นเด็ก
เมื่อปี 2005 พบผู้เสียชีวิต 78 คน ในกรุงอิสลามาบัด เมื่ออพาร์ตเมนต์ “มาร์กัลป์ลา ทาวเวอร์ส” ที่ก่อสร้างขึ้นมาอย่างไม่ได้มาตรฐานทรุดตัวลงมา ภายหลังเกิดแผ่นดินไหว