เอเอฟพี – เจ้าหน้าที่สาธารณสุขญี่ปุ่นยืนยันวันนี้(28)ว่า หนุ่มสาววัยรุ่น 3 คนป่วยเป็น “ไข้เลือดออก” ซึ่งนับเป็นการพบผู้ติดเชื้อในแดนปลาดิบครั้งแรกในรอบเกือบ 70 ปี
ผู้ป่วย 3 รายซึ่งประกอบด้วยหนุ่มวัย 20 เศษที่เป็นชาวโตเกียว, เด็กวัยรุ่นคนหนึ่ง และหญิงสาวในวัย 20 กว่าๆ จากจังหวัดไซตามะ เริ่มมีอาการป่วยหลังถูกยุงกัดที่สวนสาธารณะโยโยงิ ใจกลางกรุงโตเกียว ซึ่งทั้งสามคนเรียนอยู่ในสถาบันการศึกษาแห่งเดียวกัน
เวลานี้อาการของทั้ง 3 คนยังไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต เจ้าหน้าที่ระบุ
ญี่ปุ่นพบพลเมืองป่วยเป็นไข้เลือดออกจากการติดเชื้อในประเทศครั้งสุดท้ายเมื่อปี 1945 ทว่าในแต่ละปีก็จะมีพลเมืองราว 200 รายที่ติดเชื้อระหว่างเดินทางไปต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ไข้เลือดออกไม่ใช่โรคติดต่อโดยตรงจากคนสู่คน และอาการป่วยก็มีหลายระดับ ตั้งแต่ไข้อ่อนๆ เรื่อยไปจนถึงไข้สูงจัด
ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนที่จะป้องกันหรือรักษาโรคนี้โดยตรง ผู้ป่วยจึงต้องนอนพักผ่อน ดื่มน้ำมากๆ ทานยาพาราเซตามอลเพื่อลดไข้ และหากอาการรุนแรงก็ต้องไฟพบแพทย์
ยุงลายซึ่งเป็นพาหะไข้เลือดออกพบได้ทั่วไปในญี่ปุ่น
เจ้าหน้าที่ระบุว่า แม้การสุ่มตรวจยุงในสวนสาธารณะโยโยงิจะไม่พบเชื้อไวรัสไข้เลือดออก ทว่าจะมีการพ่นยาฆ่ายุงในบริเวณที่ผู้ป่วยถูกกัดเพื่อป้องกันเอาไว้ก่อน
สวนสาธารณะโยโยงิซึ่งตึ้งอยู่ใกล้ๆ ศาลเจ้าเมจิจินกุ ทำหน้าที่เป็นปอดขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงโตเกียว และยังเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจยอดนิยมสำหรับคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติ